“เบนิโต มุสโสลินี” ผู้นำฟาสซิสต์แห่งอิตาลี สิ้นชีวิต
Time Machine: [28 เมษายน 1945] “เบนิโต มุสโสลินี” ผู้นำฟาสซิสต์แห่งอิตาลี สิ้นชีวิต
28 เมษายน 1945 หรือวันนี้เมื่อ 79 ปีก่อน เกิดข่าวที่ดังไปทั่วโลก จากเหตุการณ์ที่ “เบนิโต มุสโสลินี” ผู้นำฟาสซิสต์แห่งอิตาลี ผู้อยู่เคียงข้าง อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ แห่งเยอรมนี ถึงแก่อสัญกรรมด้วยวัย 61 ปี โดยการสำเร็จโทษด้วยปืนจากกลุ่มคอมมิวนิสต์
--- วันสุดท้าย ---
เชื่อได้เลยว่า ประวัติศาสตร์ที่เรารับรู้ มักจะหยิบยกเล่าขานถึงวีรกรรมการเป็นผู้นำของมุสโสลินี แต่น้อยคนจริง ๆ ที่จะทราบถึงจุดจบของชายผู้สั่นสะเทือนดินแดนรองเท้าบูทท่านนี้
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น เมื่อเยอรมนีพันธมิตรของเขา ได้รับการยึดครองจากฝ่ายสัมพันธมิตร และกำลังจะรุกคืบเข้ามายังตอนเหนือของอิตาลี
มุสโสลินีเห็นท่าไม่ดี เพราะนอกจากศึกนอกที่กำลังคืบคลาน ยังมีศึกใน ที่ว่าด้วยกองกำลังปลดแอกคอมมิวนิสต์ ดังนั้น เขาและอนุภรรยา คลารา เปตัชชี จึงพากันเก็บข้าวของ เพื่อข้ามชายแดนไปยังสวิตเซอร์แลนด์ เพราะเป็นประเทศที่เป็นกลาง จะได้สร้างความปลอดภัยแก่ทั้งสองได้ ก่อนที่จะลี้ภัยไปยังสเปนอีกทอดหนึ่ง
แต่แล้วในระหว่างการข้ามชายแดน พวกคอมมิวนิสต์ก็จับกุมเขาได้ จากการที่เขาและอนุภรรยานั้น “ปลอมตัวไม่เนียน”
พวกเขาทั้งสองถูกขังอยู่ในบ้านแห่งหนึ่ง เพื่อหนีให้พ้นสายตาของเยอรมนี ด้วยกลัวว่าพวกนาซีจะตามหามุสโสลินี และสร้างเครือข่ายอักษะอีกครั้ง
แต่แล้ว วันแห่งชะตาขาดก็มาถึง 28 เมษายน 1945 พวกคอมมิวนิสต์ ได้ทำการเคลื่อนย้ายพวกเขาไปยังบริเวณใกล้ทะเลสาบโคโม ก่อนที่จะสาดกระสุนปืนกลใส่ ทำให้ทั้งสองสามีภรรยาเสียชีวิตลง
--- อำนาจที่เคยยิ่งใหญ่ ---
หลังจากที่สำเร็จโทษมุสโสลินีและอนุภรรยาเรียบร้อยแล้ว ในวันรุ่งขึ้น (29 เมษายน 1945) พวกคอมมิวนิสต์ ได้ทำการนำร่างของเขา พร้อมทั้งร่างของอนุภรรยาและพรรคพวกฟาสซิสต์อีก 14 ราย ขนใส่รถบรรทุก มาแขวนไว้บริเวณจัตุรัส Piazzale Loreto ชื่อดังของนครมิลาน
ผู้คนที่ผ่านมาเห็น ต่างรู้สึกได้เช่นเดียวกันว่า การกระทำเช่นนี้ของพวกคอมมิวนิสต์ เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่า ผู้นำฟาสซิสต์ที่เรืองอำนาจยิ่งใหญ่เพียงใด หากถึงคราวที่สิ้นอำนาจ ก็ไร้ซึ่งคนเหลียวแล
ทุกวันนี้ ที่ชนบทเมสเซกรา ในเขตการปกครองโคโม ได้มีการทำสัญลักษณ์ไม้กางเขน เพื่อเป็นอนุสรณ์ในที่ที่มุสโสลินีได้รับการสำเร็จโทษลง และถือเป็นแลนด์มาร์กของผู้ที่ชื่นชอบใน “การทหารและการสงคราม” จากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยี่ยมชมเลยทีเดียว
—————
ภาพ: Getty Images
ข้อมูลอ้างอิง:
