นายกฯ เยอรมนีแจงสาเหตุไม่ส่งขีปนาวุธ ‘ทอรัส’ ให้ยูเครน ชี้ กลัวเกิดการผิดพลาดยิงไปถูกรัสเซีย
![นายกฯ เยอรมนีแจงสาเหตุไม่ส่งขีปนาวุธ ‘ทอรัส’ ให้ยูเครน ชี้ กลัวเกิดการผิดพลาดยิงไปถูกรัสเซีย นายกฯ เยอรมนีแจงสาเหตุไม่ส่งขีปนาวุธ ‘ทอรัส’ ให้ยูเครน ชี้ กลัวเกิดการผิดพลาดยิงไปถูกรัสเซีย](/static/web/162385/fc93d41b-6606-487f-bdd5-6e4274836f11-600.webp)
ผู้นำเยอรมนีชี้แจงสาเหตุไม่ส่งขีปนาวุธ “ทอรัส” ให้ยูเครน เพราะกลัวจะเกิดการผิดพลาดยิงขีปนาวุธไปถูกรัสเซีย ชี้เบลารุสกำลังกลัวจะเป็นเป้าหมายต่อไป หากรัสเซียชนะยูเครน
นายกรัฐมนตรี โอลาฟ โชลซ์ ของเยอรมนี ชี้แจงสาเหตุที่เยอรมนี ไม่ส่งขีปนาวุธ “ทอรัส” ที่เยอรมนีสร้างเอง ไปให้ยูเครน เพราะกลัวว่า หากการยิงขีปนาวุธทอรัสเกิดหลงทิศผิดพลาด อาจยิงไปถึงกรุงมอสโก เมืองหลวงรัสเซียได้
ขีปนาวุธทอรัส (Taurus) ซึ่งเยอรมนีผลิตเอง เป็นขีปนาวุธร่อน (cruise millise) มีพิสัยการยิงไกล 500 กิโลเมตร การจะควบคุมการยิงทอรัสให้ถูกเป้าหมายอย่างแม่นยำโดยไม่ให้เกิดการผิดพลาดนั้น จำเป็นต้องใช้ทหารเยอรมนี ช่วยควบคุมการยิงขีปนาวุธนี้ เพื่อให้เล็งเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ แต่การให้ทหารเยอรมันต้องเข้าไปเกี่ยวข้องนั้น คือ เส้นแดงที่โชลซ์ได้ขีดเอาไว้ว่าจะไม่ก้าวข้าม
ผู้นำเยอรมนีกล่าวย้ำอีกครั้งว่า เยอรมนีจะไม่ส่งทอรัสให้ยูเครนแน่นอน เป็นการย้ำมติของรัฐสภาเยอรมนี ที่ได้ลงมติไปเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปฏิเสธการส่งขีปนาวุธทอรัสแก่ยูเครน แม้โชลซ์จะถูกฝ่ายค้านในเยอรมนีกดดันหนักให้ส่งขีปนาวุธให้ยูเครนก็ตาม
อย่างไรก็ตาม รัฐสภาเยอรมนีได้อนุมัติเพิ่มความช่วยเหลือทางทหารให้แก่ยูเครนต่อไป รวมไปถึงการส่งระบบอาวุธระยะไกลไปด้วย แต่ไม่ให้ขีปนาวุธทอรัส
สำหรับเยอรมนีเป็นประเทศให้ความช่วยเหลือทางทหารต่อยูเครนรายใหญ่อันดับ 2 แต่โชลซ์ได้ยืนหยัดต่อต้านแรงกดดันทั้งจากในและนอกประเทศ ที่ให้ส่งทอรัสให้แก่ยูเครน เพราะกลัวว่าจะขยายความขัดแย้งยูเครนให้กลายเป็นความขัดแย้งระดับโลก
โอกาสนี้ โชลซ์ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ ลูคาโชนโก ของเบลารุส กำลังกลัวว่า เบลารุสจะเป็นเป้าหมายต่อไปของรัสเซีย หากรัสเซียได้ชัยในยูเครน เพราะผู้นำรัสเซียเคยพูดว่า ทั้งยูเครนและเบลารุสเป็นของรัสเซีย ลูคาเชนโกกลัว เพราะเขายังต้องการการหนุนหลังจากปูติน เพื่อรักษาอำนาจเผด็จการของเขาในเบลารุส แต่ก็รู้ดีว่า หากยูเครนพ่ายแพ้ เบลารุสอาจเป็นเป้าหมายต่อไป
—————
ภาพ: Reuters