ระวังแรงขายทำกำไรทองคำฉุดราคาร่วง

น.ส.เบญจมา มาอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางราคาทองคำสัปดาห์หน้าคาดว่าจะปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวทำไฮเดิม ผ่านทุกเส้นค่าเฉลี่ย  ทั้ง10 วัน และ200 วันมาแล้วยืนเหนือ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

นอกจากนี้สัปดาห์ที่ผ่านมาธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) สร้างเซอร์ไพร์สตลาดขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.25% เพื่อสกัดเงินเฟ้อขณะที่ ธนาคารกลางยุโรป(ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ประกาศว่าจลดวงเงินซื้อพันธบัตรในโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP)ในไตรมาสหน้าหนุนทำให้เงินปอนด์แข็งค่า

ส่วนธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดคง อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% และประกาศปรับเพิ่ม วงเงินในการ Taper QE จากเดือนละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็น 3 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเริ่มดำเนินการ ม.ค. ปี 2022 ตามคาดทำให้ราคาทองคำผันผวน

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามสัปดาห์หน้าคือการประกาศจีดีพีไตรมาส 3 ของสหรัฐฯ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน และตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ  ขณะที่หลายตลาดปิดทำการเพื่อฉลองวันคริสมาสต์ รวมถึงติดตามการเคลื่อนไหวสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐถ้าแข็งค่าราคาทองคำจะปรับตัวลง ตลอดจนผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐฯ

ทั้งนี้หากราคาย่อตัวเป็นจังหวะเข้าซื้อสะสมมองแนวรับที่ 1,783  ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองแท่งในประเทศบาทละ 28,000 บาท แนวรับถัดไปที่ 1,767  ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองแท่งในประเทศบาทละ 27,900 บาท และหากปรับตัวลงมาแตะที่ 1,753  ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ราคาทองแท่งในประเทศบาทละ 27,700 บาท ให้stop loss ทันที

ด้านแนวต้านแรกที่ 1,808  ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองแท่ง 28,600 บาท และแนวต้านถัดไปที่ 1,815  ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองแท่งอยู่ที่ 28,800 บาท

ที่มา : น.ส.เบญจมา มาอินทร์

ภาพประกอบข่าว : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด