TNN online ดาวโจนส์ปิดลบ 68.93 จุด นักลงทุนวิตกผลกระทบไวรัสเดลตา

TNN ONLINE

Wealth

ดาวโจนส์ปิดลบ 68.93 จุด นักลงทุนวิตกผลกระทบไวรัสเดลตา

ดาวโจนส์ปิดลบ 68.93 จุด นักลงทุนวิตกผลกระทบไวรัสเดลตา

ดาวโจนส์ ปิดลบ 68.93 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา

วันนี้ (9 ก.ย. 64) ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกำหนดเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะถอนมาตรการผ่อนคลายทางการเงินนั้น ยังเป็นอีกปัจจัยที่สร้างแรงกดดันในตลาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,031.07 จุด ลดลง 68.93 จุด หรือ -0.20% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,514.07 จุด ลดลง 5.96 จุด หรือ -0.13% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,286.64 จุด ลดลง 87.69 จุด หรือ -0.57%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับปัจจัยลบเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยข้อมูลล่าสุดบนเว็บไซต์ Worldometer ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐพุ่งขึ้น 120,415 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 41,338,054 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1,328 ราย ซึ่งทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 670,705 ราย โดยขณะนี้สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากเป็นอันดับ 1 ของโลก

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกำหนดเวลาที่เฟดจะถอนมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน แม้ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หลายคนของเฟดซึ่งรวมถึงนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ได้สนับสนุนให้เฟดเดินหน้าแผนการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) แม้ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ชะลอตัวลงก็ตาม

หุ้น 6 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวลง นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 1.3% โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ดิ่งลง 2.81% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ร่วงลง 1.25% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 0.92% หุ้นเชฟรอน ลดลง 0.67% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ร่วงลง 2.92%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสารร่วงลง โดยหุ้นทวิตเตอร์ ทรุดตัวลง 4.17% หุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 1.21% หุ้นแอปเปิล ลดลง 1.01% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 0.41% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ร่วงลง 1.86%

นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย. โดยคาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่คณะกรรมการเฟดใช้ในการพิจารณาว่าจะเริ่มประกาศปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน พุ่งขึ้นสู่ระดับ 10.9 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือนธ.ค.2543 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.9 ล้านตำแหน่ง จากระดับ 10.18 ล้านตำแหน่งในเดือนมิ.ย.

ส่วนข้อมูลด้านอื่นๆที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ค.

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง