"พิพัฒน์"นัดถกขุนคลังเติมทุนยื้อลมหายใจท่องเที่ยว
' พิพัฒน์' นัดถกขุนคลัง-สุพัฒนพงษ์คลอดมาตรการเติมสภาพคล่องท่องเที่ยว ชงตั้งกองทุนหมื่นล้านพยุง หลังถูกพิษโควิดเล่นงานอ่วม
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เตรียมหารือกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลังคลอดมาตรการเยียวยาธุรกิจท่องเที่ยว ให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้จากการหารือกับ 5 สมาคมภาคการท่องเที่ยว ประกอบด้วยสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) สมาคมสปาไทย สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) และสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไป (สปข.)พบว่า เอกชนประสบปัญหาสภาพคล่องต้องการให้ภาครัฐเร่งช่วยเหลือด่วน
โดยเฉพาะการหาแหล่งเงินทุน (ซอฟต์โลน) อย่างน้อย 10,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องและพยุงธุรกิจท่องเที่ยว ตั้งแต่โรงแรม ทัวร์นำเที่ยว รถขนส่ง รวมถึงธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวด้วย
อย่างไรก็ตาม เอกชนต้องการให้ช่วยหยุด เงินต้นและดอกเบี้ยในการผ่อนชำระอย่างน้อย 2 ปี เพราะประเมินแล้วพบว่าจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในประเทศที่ยังรุนแรงอยู่ และการระบาดในต่างประเทศที่เห็นการกลับมาซ้ำเป็นระลอกๆ ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวน่าจะต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวกลับมาอย่างน้อยประมาณ 2 ปี
"โควิดในประเทศระบาดหนักภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 63 จนถึงขณะนี้ทำได้เพียงเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้ในภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์และสมุยพลัสโมเดลเท่านั้น แต่ในภาพรวมยังเปิดรับต่างชาติไม่ได้ นักท่องเที่ยวไทยก็เดินทางไม่ได้ จึงต้องเร่งหาทางช่วยเหลือให้เร็วที่สุด คาดว่าภายในเดือนนี้จะหารือร่วมกันทั้ง 3 ฝ่ายได้หามาตรการช่วยเหลือ"
สำหรับการจัดตั้งกองทุนเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการท่องเที่ยว หรือการหาซอฟต์โลนเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวนั้น จะของบประมาณในการจัดตั้งกองทุนมูลค่า 10,000 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับ ผู้ประกอบการในอุต สาหกรรมท่องเที่ยว อาทิ บริษัททัวร์นำเที่ยว โรงแรม รถนำเที่ยว นวดสปา โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประ กัน อาจผ่อนคลายเงื่อนไขให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ผ่านการให้ผู้ประกอบการ ค้ำไขว้ หรือการค้ำประกันระ หว่างเอกชนกันเอง โดยจะพยายามออกมาให้ได้ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีลมหายใจต่อไปได้