'คลัง' เตรียมเสนอครม.แจกเงิน 1-2 พันบาท กระตุ้นศก.สู้โควิด-19
กระทรวงการคลัง เตรียมออกมาตรการ "ดูแลและเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ชุดที่ 1" วงเงินกว่าแสนล้าน เข้าครม.เศรษฐกิจศุกร์นี้ รวมถึงกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เตรียมรับเงินสดผ่านระบบพร้อมเพย์ 1,000-2,000 บาท ช่วยค่าครองชีพ
วันนี้ (4 มี.ค.63) นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจในวันศุกร์ที่6 มีนาคมนี้ กระทรวงการคลังเตรียมเสนอชุดมาตรการ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 ภายใต้ชื่อ "ดูแลและเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ชุดที่ 1" คาดว่าจะใช้วงเงินมากกว่าแสนล้านบาท ซึ่งชุดมาตรการดังกล่าวจะครอบคลุมทุกกลุ่ม ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ โดยเน้นมาตรการที่ดำเนินการได้ทันทีเหมาะสม โดยเป็นมาตรการชั่วคราว และเชื่อว่าจะมัผลต่อเศรษฐกิจในช่วง 3-4 เดือนข้างหน้า
เบื้องต้นได้หารือร่วมกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย และภาคเอกชน ผ่านทางคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. โดยมาตรการชุดที่1 จะครอบคลุมกลุ่มแรก คือ ผู้ประกอบการ ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ โดยเฉพาะการช่วยเหลือด้านสภาพคล่อง การเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เป็นต้น
รวมถึงการแจกเงินสนับสนุนค่าครองชีพให้กับคน 3 กลุ่ม คือ ผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร และผู้มีอาชีพอิสระ รายละประมาณ 1,000-2,000 บาท แต่ลักษณะการให้เงินจะเป็นแบบรายเดือน ซึ่งจะเป็นเพียงมาตรการระยะสั้นประมาณ 3 เดือนเท่านั้น ครอบคลุมกว่า 14 ล้านคน โดยในรายละเอีดยเบื้องต้นจะมีการโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ แตกต่างจากมาตรการชิมช้อปใช้ และไม่เกี่ยวกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งต้องผู้ที่จะได้รับสิทธิ์จะต้องผ่านการลงทะเบียน แต่ในส่วนของเงื่อนไขและรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้อยู่ระหว่างกำหนด
อย่างไรก็ตาม ชุดมาตรการดังกล่าว จะเร่งเสนอให้ผ่านการพิจารณาที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจในวันศุกร์นี้ เพื่อให้เห็นชอบและเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 10 มีนาคมนี้ พร้อมยืนยันมาตรการที่ออกมาเป็นชุดพิเศษในภาวะที่ไม่ปกติ แต่ยังคงอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัดแน่นอน
ส่วนการดำเนินนโยบายดอกเบี้ย เป็นหน้าที่ของทางธนาคารแห่งประเทศไทยในการดูแล เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดหลังธนาคารกลางสหรัฐปรับลดดอกเบี้ยกะทันหัน 0.5% เหลือ 1.0-1.25% ซึ่งกนง.จะมีการประชุมในวันที่25 มีนาคมนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์
เกาะติดข่าวที่นี่website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand