นายกฯถกครม.ศก. รับมือพิษไวรัสโคโรนา-แผมงบฯปี63

นายกฯห่วยป่วย เรียกประชุมครม.เศรษฐกิจ รับมือพิษไวรัสโคโรนา - แผนรองรับงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563

วันนี้( 31 ม.ค.63) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ครั้งแรก ในปี 2563 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้หายป่วยแล้ว หลังจากที่เมื่อวาน(30 ม.ค.)ได้หยุดพักผ่อน ไป 1 วันโดยนายกรัฐมนตรี ได้ไปโรงพยาบาลพร้อมตรวจเพาะเชื้อ เอกซ์เรย์ปอดแล้ว แพทย์ยืนยันว่า เป็นไข้หวัดธรรมดา สืบเนื่องจากพักผ่อนน้อย ตั้งแต่ช่วงหลังตรุษจีน เป็นต้นมา

สำหรับการประชุม ครม.เศรษฐกิจในวันนี้ มีผู้ร่วมประชุม อาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ,นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ,นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ,นายสุริยะ จึ่งรุงเรื่องกิจ รมว.อุตสาหกรรม ,นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เป็นต้น ขณะที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ลาการประชุม เนื่องจากมีอาการป่วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวเริ่มการประชุม ว่า การประชุมในวันนี้จะเป็นการหารือมาตรการต่างๆ ช่วยเหลือผู้ประกอบการ รวมถึงเตรียมข้อมูลในการชี้แจงและการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ฝ่ายค้านจะพูดถึงเรื่อองเศรษฐกิจไม่ดี โดยข้อให้ทุกคนได้เตรียมข้อมูลไว้

โดยมีรายงานว่า ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจได้เตรียมประเมินภาวะเศรษฐกิจในประเทศ หลังเกิดไวรัสโคโรนาระบาดในจีน พร้อมมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว โดยพร้อมรับฟังข้อเสนอเอกชนที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดหาตลาดใหม่แทนนักท่องเที่ยวจีนที่นักเที่ยวจีนจะหายไปถึง 8 แสนคน เสนอมารการ กระตุ้นการท่องเที่ยวคืนเงินสด คือ Cash back ให้กับนักท่องที่ยวต่างชาติที่ ใช้จ่ายในประเทศไทย เกิน 3 หมื่นบาทขึ้นไป จะได้เงินคืน ร้อยละ 7 ในช่วงโลชีชั่น พร้อมติดตามความก้าวหน้า พัฒนาเศรษฐกิจเชิงพื้นที่ ต่อเนื่องจากเขตเศรษฐกิจพิเศษทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ซึ่งนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จะมีการเสนอมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดยรัฐบาลต้องปรับตัวตามสถานการณ์รวมถึงทั่วโลกด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีดูอย่างรอบคอบอยู่แล้ว

ในส่วนของกระทรวงคมนาคม ไม่มีการเสนอมาตราเสริมเป็นพิเศษ และยังไม่มีส่วนใดที่เป็นปัญหา ส่วนงบประมานที่ล่าช้าออกไป รอเพียงการวินิจของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากไม่เป็นปัญหาก็สามารถเดินต่อได้ แต่หากมีปัญหา เชื่อว่านายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายดูไว้อยู่แล้ว คาดว่าไม่มีอุปสรรคในการทำงาน พร้อมยืนยันว่าจะไม่กระทบกับงบรายจ่ายประจำ ส่วนงบลงทุนก็จะต้องรอคำวินิจฉัยของศาล

ส่วนการรับคนไทยกลับจากเมืองอู่ฮั่นนั้น จะใช้เครื่องบินพาณิชย์ของแอร์เอเชีย ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ส่งเรื่องไปยังทางการจีน เพื่อพิจารณาอนุมัติ ซึ่งต้องใช้เวลา ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นวันใด แต่หากทางการจีนอนุญาตเมื่อใดก็พร้อมทันที