ความเสี่ยงแบบไหนที่รู้แล้วต้องขอลอง
หากคุณอยู่ในตลาดหุ้นเป็นระยะเวลา 10 ปี มีโอกาสเกือบจะ 100% ที่คุณจะได้กำไร!
คุณรู้สึกเหมือนกันไหมครับว่า ความตื่นเต้น เป็นของหวานชั้นเลิศที่คอยหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณแบบปฏิเสธไม่ได้ วันนี้ผมอยากจะชวนตั้งคำถามตัวเอง ระหว่างลอตเตอรี่กับพอร์ตหุ้น อะไรทำให้คุณใจเต้นแรงมากกว่ากัน
แล้วทำไมคนที่ลงทุนในหุ้นเหมือนกัน คนนึงกินอิ่มนอนหลับ ส่วนอีกคนกระส่ายกระสับคล้ายตับจะพิการ ‘ทำไม…สถานการณ์เดียวกัน แต่มุมมองเรื่อง ความเสี่ยง ไม่เหมือนกัน’
เรื่องราวของความเสี่ยงมีทั้งข้อดีและข้อเสียของมันอยู่นะครับ เพราะบางทีชีวิตของเราก็ต้องการสีสันบ้าง จริงไหมครับ ลองมาเปิดมุมมองเกี่ยวกับความเสี่ยงให้ใจมันได้เต้นแรงอีกครั้ง แล้วหาคำตอบของเรื่องเสี่ยงๆ เหล่านี้กันครับ
ความเสี่ยง เมื่อเกิดขึ้นร่างกายของคุณก็จะรู้สึกถึงความตื่นเต้น จนสารอะดรีนาลีนหลั่งออกมา
ซึ่งมีความจำเป็นต่อการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงหัวใจได้ดี นี่ก็อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งเหมือนกันนะครับ ที่ทุกๆ กลางเดือน หรือสิ้นเดือนหลายคนอาจจะมองหาแผ่นกระดาษแห่งอะดรีนาลีน หรือที่เรียกกันว่า ‘หวย’ แต่ถ้าพูดถึง ความเสี่ยงจาก หวย แล้ว จะไม่พูดถึง หุ้น ก็คงจะไม่ได้
…หุ้น และ หวย เป็นของคู่กันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ถูกเอามาเปรียบเทียบกันอยู่บ่อยๆ จนเกิดเป็นวลีเด็ด “คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น”แล้วมันเกี่ยวอะไรกันรึเปล่า?
ทำไมคนจึงชอบเอาสองสิ่งนี้มาเปรียบเทียบกัน หวย ถูกนับว่าเป็น การลงทุน? หรือ หุ้น ถูกมองว่าเป็น การเสี่ยงโชค? แล้วสองสิ่งนี้มัน เสี่ยง เหมือนกันรึเปล่า?
ใช่แล้วครับ สิ่งที่ ‘หุ้น’ กับ ‘หวย’ มีร่วมกันคือ ‘ความเสี่ยง’ ครับ
แต่เราลองไปดูกันดีกว่าว่า ความเสี่ยงแบบไหน ที่คุณ ‘ต้องลอง’ ให้คุ้มค่ากับความตื่นเต้นสักหน่อย
หลายคนมองว่า การลงทุนที่เสียเงินเดือนละ 2 ครั้ง โดยอ้างอิงข้อมูลจาก ความฝัน หรือ สำนักทรง ก็เพียงพอจนยินดีพร้อมเพย์ แม้ว่าจะหมายถึงการขาดทุน 100% แบบถาวร แต่กลับกัน การลงทุนใน ‘หุ้น’ ที่มีผลประกอบการรองรับ คนกลับกลัวที่จะลงทุน เพราะ หวย ในความคิดของหลายคน คือ การนำเงินก้อนเล็กไปลงทุนเพื่อเสี่ยงรับเงินก้อนโต แต่ หุ้น กลับต้องใช้เงินก้อนโต ไปเสี่ยงให้เงินงอกเงยในระยะเวลาที่นานกว่า จนหลายคนไม่อยากรอ แล้วมีโอกาสแค่ไหนที่จะได้ตามที่หวัง ได้มีโอกาสบอกทุกคนในบริษัทว่า ‘พี่ลาออกแล้วนะ เพราะถูกรางวัลที่หนึ่ง’ มาดูกันครับ
หวย หรือลอตเตอรี่ ประกอบด้วยตัวเลข 6 หลัก รวมมีตัวเลือกให้เลือกกว่า 1,000,000 ตัวเลข (000000 -999999)
รางวัลที่ 1 มี 1 รางวัล นั่นคือมีโอกาส 0.0001% ที่จะได้เงิน 6,000,000 บาท จากต้นทุน 80 บาท กำไร +7,499,900% รางวัลเลขท้าย 2 ตัว มี 10,000 รางวัล นั่นคือมีโอกาส 1% ที่จะได้เงิน 2,000 บาท จากต้นทุน 80 บาท กำไร +2,400% และนี่คือการลงทุนในระยะเวลา แค่ 15 วัน!! ใครเห็นเลขเยอะๆ แบบนี้อาจจะลุกขึ้นไปขูดต้นไม้หน้าบ้าน หรือขับรถหาจอมปลวกแล้วใช่ไหมครับ แต่…อย่าพึ่งครับ มาฟังข้อมูลอีกด้านกันก่อน แล้วลองมาดู หุ้น กันบ้างครับ ผลตอบแทนเฉลี่ยของตลาดหุ้นไทย 10 ปีย้อนหลัง ตกปีละ 5.04% นั่นเท่ากับว่า เราลงทุน 80 บาท 1 ปี ถึงจะได้เงิน 84 บาท นี่อาจจะเป็นตัวเลขที่คำนวณแบบง่ายๆ แต่ยังไงมันก็ดูแตกต่างกันจนน่าตกใจอยู่ดี
หลายคนอาจจะรู้สึกว่า แบบนี้หวยก็ดีกว่าเห็นๆ เลยรึเปล่า
แต่!! อย่าลืมครับว่า ‘คุณมีโอกาสที่จะถูกรางวัลที่ 1 แค่ 0.0001% เท่านั้น’
อีก 99.9999% คือ โอกาสที่จะขาดทุน หรือ โอกาสแค่ 1% ที่จะถูกรางวัลเลขท้ายสองตัว อีก 99% คือขาดทุน และนั้นคือขาดทุนถาวร! ต่อให้จะซื้อทุกงวด เป็นเวลา 10 ปี โอกาสที่จะ ถูกรางวัลหรือ ขาดทุน ก็ยังคงเท่าเดิม แต่ต้นทุนกลับเพิ่มขึ้นแบบมหาศาล
บางคนอาจจะสงสัยว่า ก็แล้วทำไมในแต่ละงวดไม่ซื้อให้เยอะๆ แค่นี้โอกาสที่จะถูกรางวัลก็มากขึ้นแล้ว ทุกคนยังไม่ย่อท้อกันใช่ไหมครับ กับ การเสี่ยงโชค ตรงนี้ ได้ครับ มาดูกันต่อ
เมื่อ ถูกรางวัลที่1 จะได้รับ 6,000,000 บาท หากอยากได้กำไรสักเล็กน้อย แค่ 80 บาท จะต้องใช้เงินจำนวน 5,999,920 บาท ซื้อหวย จำนวน 74,999 ใบ เราก็จะมีโอกาสถูกรางวัลมากขึ้น เป็น 7.50% แบบปัดเศษแล้ว ย้ำว่าปัดเศษแล้วนะครับ?
แล้ว ‘หุ้น’ ล่ะ…
อ้างอิงดัชนีตลาดของประเทศที่พอจะนึกได้ไวๆ คือ ไทย จีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ และเวียดนาม ผลตอบแทนเฉลี่ย 10 ปี ไม่มีตลาดไหนติดลบเลย นั่นเท่ากับว่า หากคุณอยู่ในตลาดหุ้นเป็นระยะเวลา 10 ปี มีโอกาสเกือบจะ 100% ที่คุณจะได้กำไร! แล้วอะไรทำให้คนที่ถูกหวยกิน จึงไม่เป็นเดือดเป็นร้อนเท่ากับบางคนที่ หุ้นตก ในเมื่อหวยนั้น ขาดทุนถาวร แต่หุ้นยังมีโอกาสที่จะกลับขึ้นมา นั่นเป็นเพราะเรา ให้ความสำคัญกับผลตอบแทนระยะสั้น เราจึงยอมถูกหวยกินอยู่ได้ทุกงวด
เพราะผลตอบแทนมันล่อตาล่อใจยังไงล่ะ!!! จนลืมไปว่า ‘ลงทุน’ ไปกับมันเท่าไหร่ แต่พอมาเป็นหุ้น หากคุณลงทุนระยะยาว 10 ปี คุณแทบจะไม่มีโอกาสขาดทุนเลยด้วยซ้ำ ยิ่งถ้าเลือก
#หุ้นที่พื้นฐานดี ราคาที่เหมาะสม ด้วยแล้ว ยิ่งมีโอกาสสูงที่หุ้นตัวนั้นจะเติบโตไปเป็นกำไรให้เรา
ถ้าคุณลงทุนอยู่ แล้วรู้สึกว่า ‘ยังเครียด’ เพราะ ‘เสี่ยง’ อาจต้องลองตั้งคำถามว่า
แล้วทำไม นักลงทุน หลายคนเขา ลงทุนอย่างสบายใจ
คำตอบคือ..
เพราะพวกเขาเข้าใจความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้ และเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงระดับนั้น เลือกลงทุนด้วยความเข้าใจ เข้าใจว่า การลงทุนระยะยาว ต้องเลือกหุ้นแบบไหนมาเข้าพอร์ต ไม่ได้มองแค่กำไรระยะสั้นๆ (แต่จริงๆ หุ้นก็มีปันผลอยู่นะ) เขามองกำไรระยะยาวที่จะสร้างสุขภาพการเงินที่ดีของตัวเขาเองในอนาคตได้ อีกเรื่องคือ เงินลงทุน ต้องเป็นก้อนเงินที่อยู่ในสถานะที่เหมาะสม นั้นก็คือ เงินเย็น ที่เราเคยอธิบายไปแล้ว ไปตามอ่านกันได้จาก jitta.co/41r7Q9t ได้เลย
สรุปได้ว่า ถ้าคุณ ลงทุน อย่างเข้าใจ ไม่ได้มองแค่ผลตอบแทน แต่มองยาวไปถึงความมั่นคงทางการเงินในอนาคต เข้าใจความเสี่ยง และหลักการความสบายใจในการลงทุนของคุณก็จะตามมาครับ มาถึงตรงนี้แล้วความเสี่ยงจากหุ้น น่าลองมาขึ้นหรือยังครับ อย่าเสียเวลาแบ่งเลยครับ คนจนจะเล่นหวย หรือคนรวยจะเล่นหุ้น เพราะรวยหรือจนไม่สำคัญเลยครับ อยู่ที่ว่า ‘ความเสี่ยง’ แบบไหนที่คุณอยากลอง แต่ก็ต้องทำความเข้าใจกับความเสี่ยงนั้นให้ดีจริงๆ ด้วยนะครับ
ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์
CEO Jitta Wealth
ติดตามข่าวหุ้นและการลงทุนทางไลน์
• Line @TNNWEALTH : https://bit.ly/3tCKmiD
———————————————————————
ติดตาม TNN Wealth ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
• Youtube : https://bit.ly/TNNWealthYoutube
• TikTok : https://bit.ly/TNNWealthTikTok
หรือดูรายการ Live ได้ทาง https://bit.ly/3HmUu4O
