TNN online อีซีบีไฟเขียวขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สกัดเงินเฟ้อ

TNN ONLINE

Wealth

อีซีบีไฟเขียวขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สกัดเงินเฟ้อ

อีซีบีไฟเขียวขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สกัดเงินเฟ้อ

เป็นไปตามตลาดคาดการณ์อีซีบีมีมติขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เพื่อคุมเงินเฟ้อ แม้ส่งผลให้เศรษฐกิจอียูเสี่ยงสู่ภาวะถดถอย

 ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ระบุว่า ที่ประชุมเมื่อวันที่ 27 ต.ค.มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%ตามการคาดการณ์  และให้คำมั่นจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุม เงินเฟ้อ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของ 19 ประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโรหรือ ยูโรโซน ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1.5% นับเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมา 3 ครั้งติดต่อกัน แม้ว่ามาตรการนี้จะทำให้กลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) เสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจก็ตาม


ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ ECB ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมา 2 ครั้งติดกันแล้ว คือการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนก.ค.และ 0.75% ในเดือนก.ย. ที่ผ่านมาตามด้วยล่าสุด 0.75% ในเดือนต.ค.โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค.นั้น ถือเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปีของ ECB และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา นอกจากนี้ ยังมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสู่ระดับ 1.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2552 จากเดิมอยู่ที่ระดับ 0.75%


นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เคยกล่าวไว้ว่า การดำเนินการของ ECB อาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แต่ก็จำเป็นจะต้องให้ความสำคัญสูงสุดต่อการรักษาเสถียรภาพของราคาถือเป็นหลักการพื้นฐานสำคัญ และต้องพิจารณาทุกองค์ประกอบที่ส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อ รวมทั้งความเสี่ยงที่จะกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ


 สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท)  ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซนพุ่งขึ้นสู่ระดับ 9.9% ในเดือนก.ย. จากระดับ 9.1% ในเดือนส.ค. และสูงกว่าระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของ ECB มาหลายเดือนแล้ว โดยเฉพาะในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ราคาพลังงานและอาหารขยับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีปัญหาการชะงักงันทางการขนส่งสินค้า อุปสงค์ที่สูงขึ้นในยุคหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการปรับขึ้นราคาสินค้าแทบทุกกลุ่มวิกฤตด้านพลังงานในอียูนั้น เริ่มต้นจากการบุกยูเครนของรัสเซียในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจต่างๆ เช่น ภาคอุตสาหกรรมการผลิต ขณะเดียวกัน ราคาสินค้าและบริการที่สูงขึ้นได้ส่งผลกระทบทางการเงินของภาคครัวเรือน และค่าครองชีพในภาพรวม 


ภาพประกอบ  AFP


ข่าวแนะนำ