เตรียมแต่งฟ้าแลบ! "กระแต อาร์สยาม" พร้อมแล้วจัดงานวิวาห์หนุ่มนอกวงการ
กระแต อาร์สยาม เปิดใจเรื่องความรักคบกับหนุ่มนอกวงการมานาน 10 ปี พร้อแล้วเรื่องแต่งงาน
แม้จะไม่เคยเผยใบหน้าแบบชัดๆให้ได้เห็นกันว่าแฟนหนุ่มของนักร้องลูกทุ่งสาว "กระแต นิภาพร บุญยะเลี้ยง" หรือ "กระแต อาร์สยาม" คือใคร แต่ล่าสุดเธอได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการของ "วู้ดดี้ วุฒิธร" ว่าตอนนี้คบหากันมานานกว่า 10 ปีแล้ว และพร้อมที่จะจัดงานแต่งงานแล้ว
ทีมงานพี่บอกว่ากระแตจะแต่งงานแบบสายฟ้าแลบ หมายความว่ายังไง ?
กระแต : ก็เราไม่ได้เปิดตัว คนจะคิดว่าเรายังไม่มีแฟนบ้าง โสดบ้าง แต่จริงๆ หนูคบกับคนนี้มา 10 ปีแล้ว รักเดียวใจเดียวมาก อยู่ด้วยกันจากความเข้าใจ จากตอนแรกเป็นเพื่อนสนิทกัน แล้วเขาก็เป็นส่วนหนึ่งเลยที่ทำให้ธุรกิจเราเติบโตขึ้นด้วย เพราะว่าหนูอยู่หน้าบ้าน เขาอยู่ระบบหลังบ้าน เป็นคนที่ส่งเสริมเรา ก็มีความสุข
หมายความว่าถ้าจะแต่งก็คือแต่งเลย ?
กระแต : คบมา 10 ปี มันก็แต่งได้แล้วล่ะ เอาจริงๆ หลายๆ คนไม่รู้มันเลยกลายเป็นเหมือนถ้าเราประกาศแต่ง มันก็เลยดูสายฟ้าแลบ เพราะตั้งใจว่าไม่เกิน 2 ปีนี้ คือตั้งเป้ากับตัวเองแล้วก็แฟนว่า จะทำธุรกิจของเราให้ถึงพันล้านบาทแล้วเปิดตัวเลย (หัวเราะ) หาแรงบันดาลใจ หาเป้าหมายต้องขยันทำให้ได้ แต่หนูก็คิดไว้ว่าถ้าไม่ถึงเป้า 2 ปีก็จะแต่งเพราะจะ 40 แล้วค่ะ
นอกจากนี้เธอยังได้มาเปิดใจเรื่องครอบครัว ที่ถูกกล่าวหาว่าอกตัญญูไม่ดูแลพ่อ โดย กระแต เล่าว่า คุณแม่จะไม่ค่อยให้พูดเรื่องครอบครัว คิดว่าเขาน่าจะอยากให้เรามีความเพอร์เฟคสมบูรณ์มีครอบครัวที่รักกัน หนูไม่เคยพูดเลย เวลาพูดถึงเรื่องคุณพ่อเขาจะไม่ให้พูด คือคุณพ่อกับคุณแม่เขาแยกทางกันแล้ว หนูไม่ได้อยากให้ใครมองว่าครอบครัวเราไม่ดี อยากแค่ให้เห็นว่า กระแตประสบความสำเร็จในชีวิตได้ มันไม่จำเป็นต้องมีครอบครัวที่เพอร์เฟค อยากให้คนที่มีปัญหาเหมือนเราสู้ เหมือนที่กระแตเป็นอยู่ ปกติใครจะด่า จะบูลลี่กระแต ไม่เคยเสียใจเลย ฉันจะไม่เสียน้ำตากับพวกนั้น หนูจะอ่อนไหวกับเรื่องครอบครัวอย่างเดียวเลย หนูโตมาในครอบครัวที่ไม่ค่อยมีความรักที่สมบูรณ์เท่าไหร่ เราจนมาก คือคุณแม่ทำงานคนเดียวเลี้ยง 5-6 ชีวิต บางวันเราไม่มีข้าวกินเหลือมาม่าซองเดียวกินกันทั้งบ้านอะไรอย่างงี้ค่ะ อยากให้พ่อกับแม่รักกัน แล้วถ่ายรูปมีพ่อแม่ครบพร้อมกัน สังเกตุว่า IG หนูจะไม่ค่อยมีรูปครอบครัวแบบพร้อมหน้า ไม่มีเลย
คือหนูลำบากใจเวลาพ่อกับแม่เลิกกัน เพราะว่าคุณพ่อก็ไม่มีเงิน แล้วหนูก็ต้องขอตังค์แม่ คือหนูโกหกแม่ตลอดว่าจะไปซื้อเครื่องสำอางแต่ว่าก็โอนให้คุณพ่อ คือแม่จะไม่ให้พ่อเลย จะบอกว่าที่หนูทำธุรกิจ เพราะว่าหนูไม่อยากทำบาป หนูไม่อยากโกหกแม่ อยากมีเงินให้พ่อ ตั้งแต่เด็กเราจะให้คุณแม่เก็บตังค์ให้ ก็กลายเป็นว่าคุณแม่ดูแลเงินให้ทุกบาททุกสตางค์ ไม่เคยมีเงินเก็บเลย ถ้าจะใช้ก็ขอเขา แต่พอจะให้พ่อไม่ได้ เลยต้องหาเรื่องโกหกว่าวันนี้หนูไปกินข้าวนะ ไปซื้อเครื่องสำอางนะ เพราะพ่อไม่มีบ้านเขาอยู่ตามยถากรรม เวลาเราไปกินอาหารแพงๆอร่อยๆ หนูนึกถึงพ่อตลอด เขาจะกินอะไรบ้างไหม อยากให้เขากินของดีๆ เขาคือพ่อ สุดท้ายเขาก็คือพ่อ แต่ตอนนี้แม่ดีขึ้นมากแล้ว ตอนแรกหนักมาก เขาก็ยอมให้พ่อมาเจอหนูบ้าง หลายๆ คนก็จะชอบว่าหนูทำไมไม่ดูแลพ่อเลย ทิ้งพ่ออยู่แบบนี้ ลูกมีเงินเป็นนักร้องดัง ทำไมไม่ดูแลพ่อ ชาวบ้านก็จะนินทา เหมือนหนูอกตัญญูอะไรแบบนี้ หนูก็เลยอยากมีเงินให้พ่อโดยที่ไม่ต้องโกหกหรือขอแม่ก็เลยทำธุรกิจดีกว่า
