"กุ้งพลอย" ลั่น! มีปัญหากับ “หนุ่ม” เพราะคนกลาง? แจงดราม่า ATK ก่อนเจอลูก
เสียงสั่นน้ำตาลคลอ! “กุ้งพลอย” เคลียร์ดรามา ATK ก่อนเจอลูก ลั่น! มีปัญหากับ “หนุ่ม” เพราะคนกลาง ?
ก่อนหน้านี้ที่อดีตสามี “หนุ่ม ศรราม” ได้ออกกฏให้ “กุ้งพลอย” หรือ “ติ๊ก กนิษฐรินทร์” อดีตภรรยาตรวจ ATK ก่อนเจอลูกสาวทุกครั้ง และเกิดดราม่า กุ้งพลอย รู้สึกไม่พอใจและออกมาโพสต์ภาพผล ATK ผ่านอินสตาแกรมสตอรี่ ล่าสุดเธอเปิดใจถึงเรื่องที่เกิดพร้อมยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยมีปัญหากับ “หนุ่ม ศรราม” เพราะคนกลาง??
เคลียร์ดราม่าทุกประเด็น?
กุ้งพลอย : ชีวิตหนูเจอดราม่าเป็นเรื่องปกติแล้ว เริ่มตั้งแต่แต่งงานมาก็เกิดดราม่าขึ้นแล้ว ช่วงแรกๆอาจจะยังไม่ชิน แต่อยู่ไปนานๆก็เริ่มชินเริ่มปลง เพราะรู้ว่าอยู่ตรงนี้ก็ต้องเจอดาม่าอยู่แล้ว คือเราต้องอยู่กับมันให้ได้
ประเด็น ATK คืออะไร ใครเป็นคนตั้งกฎ?
กุ้งพลอย : จริงๆแล้วการ atk ต้องตั้งกฎก็ได้ พ่อแม่ต้องคำนึงและทำอยู่แล้วถ้าเรารักลูก และการตรวจ atk เป็นสิ่งที่เรายินยอมและเรารับรู้อยู่แล้วทุกครั้งที่เจอวีจิ และคนที่ติดตามเราไปทุกครั้งเขาก็ตรวจเหมือนกับเราทุกครั้ง แต่เพราะการสื่อสารผิดพลาดทำให้เกิดดราม่านี้ขึ้นมาเนื่องจากเราไม่คุยกันเอง มีคนกลางเป็นทางผ่านทำให้เราเกิดการเข้าใจผิดกันได้ แต่ถ้าเราคุยกันเองเหมือนคู่อื่นๆ ที่เลิกรากันไปแล้วเรายังสามารถคุยกันในฐานะเพื่อนมนุษย์ได้
ทุกวันนี้คุยกับพี่หนุ่มศรรามยังไง?
กุ้งพลอย : ก็ต้องคุยผ่านคนกลางอย่างเดียวไม่สามารถยกหูหาได้เลย หรือไม่ก็ผ่านพี่เลี้ยง ผ่านพี่อ๊อฟที่เคยเป็นทนายของพี่หนุ่มเรียกได้ว่าตอนนี้ก็เป็นพี่ชายของเขา
เหมือนจะจบแต่ไม่จบเพราะเราเลือกที่จะโพสต์ F… off ?
กุ้งพลอย : เวลาที่หนูจะอยากจะทำอะไรหนูไม่ค่อยมีภาพ หนูจะเรียวพอรู้สึกว่านี่คือตัวตนของหนู และหนูมีมุมที่น่ารักและอัปลักษณ์ของตัวเอง แต่หนูโชคดีอยู่อย่างหนึ่งว่าหนูเป็นอะไรแล้วหนูยอมรับในสิ่งที่หนูเป็น หนูมีหลายความรู้สึกทั้งเสียใจและน้อยใจแต่ไม่โกรธค่ะ
ถ้ามองไปที่ลูกเราจะเสียใจน้อยลงไหม?
กุ้งพลอย : ระยะเวลาสองปีที่ผ่านมาหนูทำแบบนั้นตลอด เป็นแม่ที่ยอมและอดทน หนูอดทนเพื่อลูกทุกอย่างสิ่งอื่นใดแต่ไม่เคยเอาไปเสียบกับแม่คนอื่นเลย หนูขอเปรียบกับความรู้สึกของคนใจร้อนคนหนึ่งและต้องทนอะไรหลายอย่างหนูต้องรักษาสุขภาพจิตใจ โดยเป้าหมายของหนูคืออยากให้ลูกกลับมาย้อนดูอะไรหลายๆอย่างและไม่รู้สึกผิดหวังกับแม่
เจอลูกสองครั้งต่อหนึ่งเดือนพอไหม?
กุ้งพลอย : หนูเคยรู้สึกว่าหนูอยากเรียกร้องมากกว่านี้ หนูอยากกอดลูกหนูอยากมีโอกาสไปส่งลูกที่โรงเรียน เรียกร้องแบบนี้ไปหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่เคยสักครั้ง เพราะหนูยังไม่ได้รับอนุญาต และหนูก็ไม่อยากทำเพราะมันจะเป็นการก้าวก่ายซึ่งมันทำให้หนูมีโอกาสได้เจอลูกน้อยลง
ไม่กลัวว่าบาดแผลของเราจะกลายไปเป็นบาดแผลของลูกบ้างหรอ?
กุ้งพลอย : หนูกลัวค่ะ สิ่งที่หนูกลัวมันอาจจะทำให้คุณภาพชีวิตทุกอย่างลดหายลงก็ได้อีกมุมนึง แต่ถ้าเรามองอีกมุมนึงค่ะคุณภาพของเราและชีวิตลูกมันอาจจะลดลงก็ได้
ทุกวันนี้เจอลูกเดือนละสองวันทำกิจกรรมอะไรร่วมกันบ้าง?
กุ้งพลอย : มีทุกอย่างค่ะ คือหนูตักตวงความสุขจากวันที่ได้เจอลูกน้อยมากๆเลย และหนูก็เสพความสุขตรงนั้นกลับไปให้มีพลังสู้กับชีวิต พอถึงเวลาที่เราจะต้องกลับบ้านเราก็ต้องแข็งแรง ส่วนตัวลูกหนูก็คิดว่าเขาก็น่าจะมีความสุขที่สุดแล้วเพราะเขาได้เล่นและเขามีความสุข ตอนนี้พัฒนาการของลูกก็คิดว่าลูกหนูสามารถจะโกอินเตอร์ได้แทนลูกได้เล่นบทบู๊
จะรออีกนานไหมที่จะได้เจอลูกและจะรอแบบไหนให้หัวใจเรามีความสุข?
กุ้งพลอย : ทุกวันนี้หนูพยายามให้เรามีความสุขในทุกวัน เมื่อก่อนหนูกักตัวเองเกือบสองปีแต่ในห้องให้ตัวเองทำขนมขายเสื้อผ้าขายชุดว่ายน้ำไม่ออกไปไหนเลยเพราะกลัวสังคมภายนอก ไม่เคยโกรธที่จะโดนบูลลี่ที่จะโดนด่า หนูมีเพื่อนรอบข้างที่บอกกับหนูว่าให้ออกมาใช้ชีวิตข้างนอก ต้องออกจากคอมฟอร์ทโซนเพราะไม่งั้นวันข้างหน้าเราจะดิ่ง หนูรับฟังเพราะอาการของหนูตรงกับที่เค้าบอกทุกอย่าง และหนูก็เลือกที่จะออกมาจากคอมฟอร์ทโซนตรงนั้น
ภาพ / ข้อมูลจากรายการ โต๊ะหนูแหม่ม