"The Power of the Dog" และ "West Side Story" คว้ารางวัลหนังยอดเยี่ยมเวทีลูกโลกทองคำครั้งที่ 79
"The Power of the Dog" และ "West Side Story" กวาดรางวัลสำคัญเวทีลูกโลกทองคำปีล่าสุดเรื่องละ 3 สาขาเท่ากัน รวมถึงสาขาภาพยนตร์ประเภทดราม่าและสาขาภาพยนตร์ประเภทเพลงและตลกยอดเยี่ยมด้วย
งานมอบรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 79 ถือเป็นการมอบรางวัลที่เงียบเหงาที่สุดนับตั้งแต่มีการจัดงานมาเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะไม่มีการถ่ายทอดสดแล้วก็ยังไม่มีการไลฟ์สตรีมผ่านทาง "โซเชียล มีเดีย" อีกด้วย มีแต่การอัพเดตผลรางวัลในสาขาต่างๆแบบ "Real Time" ผ่านทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของทาง "Golden Globes" เท่านั้น ส่วนสาเหตุที่ทำให้ในปีนี้งานมอบรางวัลลูกโลกไม่มีการถ่ายทอดสดเป็นเพราะว่าทางสถานีโทรทัศน์ NBC ที่ถือสิทธิ์ขาดในการถ่ายทอดสดได้แบนทางสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งฮอลลีวูด เนื่องจากคณะกรรมการในการตัดสินรางวัลมีแต่คนผิวขาวเป็นส่วนใหญ่และไม่เปิดให้โอกาสคนผิวดำเข้าเป็นคณะกรรมการซึ่งทาง NBC มองว่าเป็นการเหยียดสีผิว และถึงแม้ว่าในภายหลังทางสมาคมจะให้คนผิวดำเข้ามาเป็นกรรมการแล้วก็ตามแต่ก็ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ส่งผลให้ปีนี้ไม่มีการถ่ายทอดสดโดยทาง NBC และทาง NBC ก็ไม่มอบสิทธิ์การถ่ายทอดให้สื่อไหนเลยด้วย เท่านั้นยังไม่พอ เพราะว่านักแสดงทั้งในฮอลลีวูดและต่างประเทศต่างก็พร้อมใจไม่ไปร่วมงานลูกโลกทองคำปีนี้กันถ้วนหน้า
Photo Credit Website : Newsweek
รางวัลสาขาแรกๆที่มีการประกาศผลรางวัลก็คือสาขานักแสดงนำชายจากภาพยนตร์ประเภทดราม่ายอดเยี่ยมและนักแสดงนำชายจากภาพยนตร์ประเภทเพลงและตลกยอดเยี่ยม ซึ่งตกเป็นของ "วิลล์ สมิธ" (Will Smith) จากเรื่อง "King Richard" และ "แอนดรูว์ การ์ฟิลด์" (Andrew Garfield) จากหนังเรื่อง "tick, tick… BOOM!" ตามลำดับ ทางด้าน "เรเชล เซกเลอร์" (Rachel Zegler) และ "เอเรียน่า เดอโบส" (Ariana DeBose) ซึ่งเป็นนักแสดงนำหญิงและสมทบหญิงจากหนังเพลงเรื่อง "West Side Story" สามารถคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงและรางวัลนักแสดงสมทบหญิงจากภาพยนตร์เพลงประเภทตลกยอดเยี่ยมไปครองได้ทั้งคู่ ส่วนรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมตกเป็นของ "โคดี สมิท-แม็คฟี" (Kodi Smit-McPhee) จากหนังเรื่อง "The Power of the Dog"
"วิลล์ สมิธ" จากหนังเรื่อง "King Richard"
Photo Credit Website : Variety
"แอนดรูว์ การ์ฟิลด์" จากหนังเรื่อง "tick tick... BOOM!"
Photo Credit Website : NBC News
"เรเชล เซกเลอร์" จากหนังเรื่อง "West Side Story"
Photo Credit Website : NJ
"เอเรียนา เดอโบส" จากหนังเรื่อง "West Side Story"
Photo Credit Website : Broadway Shows
"โคดี สมิท-แม็คฟี" จากหนังเรื่อง "The Power of the Dog"
Photo Credit Website : Entertainment Weekly
หนังดราม่าสุดเข้มข้นเรื่อง "The Power of the Dog" คว้ารางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 79 ไปครองได้ทั้งสิ้น 3 สาขาด้วยกันคือสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยมโดยนักทำหนังหญิง "เจน แคมเปียน" (Jane Campion) และรางวัลใหญ่สุดอย่างสาขาภาพยนตร์ประเภทดราม่ายอดเยี่ยม ส่วนหนังเพลงเรื่อง "West Side Story" คว้ารางวัลไปครองได้ 3 สาขาเช่นกัน ซึ่งนอกจากรางวัลในสาขานักแสดงนำหญิงและสมทบหญิงแล้ว หนังเพลงเรื่องเยี่ยมของผู้กำกับ "สตีเวน สปีลเบิร์ก" (Steven Spielberg) เรื่องนี้ก็ยังคว้ารางวัลในสาขาภาพยนตร์ประเภทเพลงและตลกยอดเยี่ยมไปครองได้อีกด้วย
ภาพยนตร์เรื่อง "The Power of the Dog"
Photo Credit Website : The New York Times
ผู้กำกับ "เจน แคมเปียน"
Photo Credit Website : The Guardian
ภาพยนตร์เรื่อง "West Side Story"
Photo Credit Website : The Guardian
ส่วนรางวัลที่น่าสนใจในสาขาต่างๆของเวทีลูกโลกทองคำครั้งที่ 79 ที่แสนจะเงียบเหงาประจำปีนี้ก็มีอาทิสาขานักแสดงนำหญิงจากภาพยนตร์ประเภทดราม่ายอดเยี่ยมที่ตกเป็นของ "นิโคล คิดแมน" (Nicole Kidman) จากหนังเรื่อง "Being the Ricardos" รางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่ตกเป็นของหนังเรื่อง "Belfast" รางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่ตกเป็นของเพลง "No Time To Die" จากหนัง "James Bond" ตอนล่าสุดที่ขับร้องโดย "บิลลี่ ไอลิช" (Billie Eilish) รางวัลภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยมตกเป็นของหนังเรื่อง "Encanto" และรางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมตกเป็นของหนังเรื่อง "Drive My Car" จากประเทศญี่ปุ่น ส่วนนักแสดงอาวุโส "โอยองซู" ที่สวมบทเป็นคุณตา "โออิลนัม" ในซีรีส์ยอดฮิตแห่งปีอย่าง "Squid Game" ก็สามารถคว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมไปครองได้ด้วย ส่งผลให้ "โอยองซู" เป็นนักแสดงเกาหลีคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้ารางวัลจากเวทีลูกโลกทองคำไปครองได้
"นิโคล คิดแมน" จากหนังเรื่อง "Being the Ricardos"
Photo Credit Website : GoldDerby
Photo Credit Website : Variety
Photo Credit Website : Disney Wiki
ภาพยนตร์เรื่อง "Drive My Car" จากญี่ปุ่น
Photo Credit Website : Los Angeles Times
"โอยองซู" จากซีรีส์เรื่อง "Squid Game"
Photo Credit Website : allkpop