TNN online Red Bull ทำลานสเกตลอยฟ้า ใช้วัสดุเดียวกับรถ Formula 1

TNN ONLINE

Tech

Red Bull ทำลานสเกตลอยฟ้า ใช้วัสดุเดียวกับรถ Formula 1

Red Bull ทำลานสเกตลอยฟ้า ใช้วัสดุเดียวกับรถ Formula 1

Red Bull ทำลานสเกตลอยฟ้า ผูกติดกับบอลลูนยักษ์ลอยเหนือพื้น โดยลานสเกตลอยฟ้านี้ยังใช้วัสดุเดียวกับรถ Formula 1 และได้ชื่อว่าเป็นลานสเกตลอยฟ้าแห่งแรกของโลกอีกด้วย

เรดบูล (Red Bull) แบรนด์เจ้าของเครื่องดื่มชูกำลัง และผู้สนับสนุนกีฬาเอกซ์ตรีมหลายรูปแบบสร้างตำนานใหม่ด้วยการสร้างลานสเกต (Sketepark) ลอยฟ้าแห่งแรกของโลก พร้อมให้นักกีฬาจักรยานผาดโผน มาโชว์ลีลาขี่จักรยานกลางเวหากันไปเลย


Red Bull ทำลานสเกตลอยฟ้า ใช้วัสดุเดียวกับรถ Formula 1 ภาพจาก Red Bull

ที่มาที่ไปของภารกิจสุดระห่ำนี้ ก็มาจากการที่ คริส ไคเอิล (Kriss Kyle) นักกีฬาจักรยานผาดโผนบีเอ็มเอ็กซ์ (BMX) ชาวสก็อต ตั้งเป้าไว้ว่าอยากจะไปขี่จักรยานผาดโผนในที่ ๆ ไม่เคยมีใครทำมาก่อน จึงได้ร่วมมือกับทีม เรดบูล แอดวานซ์ เทคโนโลยี (Red Bull Advanced Technologies) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านเทคนิคของทีม ออราเคิล เรดบูล เรซซิ่ง ฟอร์มูลาวัน (Oracle Red Bull Racing Formula One) หรือทีมพัฒนารถแข่งฟอร์มูลาวัน (Formula 1) เพื่อออกแบบและสร้างลานสเกตสุดพิเศษแห่งนี้ขึ้นมา


Red Bull ทำลานสเกตลอยฟ้า ใช้วัสดุเดียวกับรถ Formula 1 ภาพจาก Red Bull

ตัวลานสเกตแห่งนี้ ใช้วัสดุผสมคาร์บอนไฟเบอร์ แบบเดียวกันกับที่ใช้ในรถฟอร์มูลาวัน (Formula 1) มีน้ำหนักรวมอยู่ที่ 1.7 ตัน และใช้บอลลูนลมร้อนขนาดใหญ่ที่สั่งทำพิเศษ ใหญ่กว่าบอลลูนมาตรฐานทั่วไปถึง 6 เท่า มาช่วยยกลานสเกตขึ้นสู่ท้องฟ้าที่ความสูงถึง 2,000 ฟุต หรือราว 610 เมตร


อย่างไรก็ตาม นอกจากการออกแบบสถาปัตยกรรมตัวลานสเกตและการใช้บอลลูนยักษ์แล้ว การจะยกลานสเกตหนักขนาดนี้ให้ลอยฟ้าได้สำเร็จ ทางทีมเรดบูลก็ระบุว่าต้องทำการบ้านมานาน โดยทีมใช้เวลากว่า 3 ปีไปกับโครงการนี้ ตั้งแต่การเริ่มออกแบบ พัฒนา ฝึกซ้อม จนถึงวันที่ยกลานสเกตลอยฟ้า


Red Bull ทำลานสเกตลอยฟ้า ใช้วัสดุเดียวกับรถ Formula 1 ภาพจาก Red Bull

นอกจากนี้ ทีมยังต้องคำนวณเรื่องของสภาพอากาศในวันทำภารกิจมาอย่างละเอียด โดยอาศัยปัจจัยเรื่องความกดอากาศสูง บรรยากาศที่หนาวเย็นและแห้ง และอาศัยความเร็วลมที่ต่ำกว่า 3 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือราว 4.82 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อทำให้บอลลูนสามารถรักษาระดับได้ดี


และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ก็คือความสามารถของตัวนักกีฬาเอง ที่อาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญขั้นสูง ในการขี่จักรยานแบบโลดโผนในพื้นที่แคบ ๆ แบบที่กระโดดไป ก็ต้องกะน้ำหนักของตัวเอง บวกร่มชูชีพเข้าไปด้วย และยังต้องคอยทรงตัวไปกับลานสเกตที่แกว่งไปมาไม่อยู่นิ่งได้ด้วย 


ดังนั้นกว่าจะมาเป็นผลงานสุดหวาดเสียวแบบนี้ ก็ต้องลงทุน ลงแรง ทุ่มเวลาศึกษาและวางแผนกันมานาน บวกกับการฝึกซ้อมและประสบการณ์ของนักกีฬาเองด้วย เพื่อให้ภารกิจนี้สำเร็จได้อย่างปลอดภัยนั่นเอง


ข้อมูลจาก designtaxi, robbreport, redbulladvancedtechnologiesredbull



ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง