ภัยพิบัติที่เกิดจาก "Climate Change"
เตือน 10 ภัยพิบัติที่เกิดจาก "Climate Change" อันตรายสร้างความเสียหายทั่วโลก
กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สรุป 10 ภัยพิบัติที่เกิดจาก "Climate Change" ไว้ดังนี้
1.เริ่มจากอากาศสุดขั้ว : สภาพอากาศโดยเฉลี่ยร้อนขึ้นตามอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น ทำให้ฤดูร้อนยาวนาน ฤดูหนาวจะสั้นลง พายุมีความรุนแรงและฝนตกหนักรวมทั้งเกิดภัยแล้งถี่ขึ้น
2.คลื่นความร้อน(Heat Wave) : แถบยุโรปและอเมริกาเหนือจะรุนแรงขึ้น อุณหภูมิจะสูงขึ้นเกือบ 50 องศา ยังทำให้เกิดไฟป่า เผาทำลายพืชและสัตว์อย่างกว้างขวาง
3.ภัยแล้งซ้ำซาก : ปรากฎการณ์เอลนีโญ และลานีญา ทำให้เกิดความแห้งแล้ง ฝนตกหนัก ทวีความรุนแรงและถี่ขึ้นถึง 5 เท่า ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา
4.หิมะถล่มเมือง : ทวีปอเมริกาเหนือและตอนเหนือของยุโรปอาจเกิดปรากฎการณ์หนาวสุดขั้ว อุณหภูมิติดลบต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง หิมะตกต่อเนื่องยาวนาน
5.พายุหมุนขนาดยักษ์ : น้ำทะเลในมหาสมุทรมีอุณหภูมิสูง ทำให้เกิดพายุหมุนเขตร้อน เช่นไต้ฝุ่น เฮอริเคน ไซโคลน ถี่และรุนแรงขึ้น
6.น้ำท่วมโลก : เกิดจากภาวะโลกร้อนส่งผลให้น้ำแข็งบริเวณขั้วโลกละลายลงสู่ทะเลและมหาสมุทร ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น เมืองที่อยู่ติดชายทะเลอาจจะจมอยู่ใต้น้ำ
7.กระแสน้ำมหาสมุทรแปรปรวน : การละลายของน้ำแข็งขั้วโลกทำให้การไหลเวียนของกระแสน้ำอุ่น และกระแสน้ำเย็นเคลื่อนที่ช้าลง ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตบนบกและสัวต์ในทะเล
8.ทะเลเป็นกรด : น้ำทะเลมีความเป็นกรดสูงสภาวะทางเคมีเปลี่ยนแปลงส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตหลายชนิดในระบบนิเวศทางทะเลต่อเนื่องกันเป็นลูกโซ่
9.พืชและสัตว์สูญพันธุ์ : เกิดปรากฎการณ์ปะการังฟอกขาว ระบบนิเวศเสื่อมโทรมสิ่งมีชีวิตบนบกดำรงชีวิตได้ยาก
10.เกิดโรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ำ : การระบาดของโรคร้ายจากเขตร้อนแพร่กระจายไปสู่ภูมิภาคอื่นของโลกง่ายขึ้นทั้งโรคมาลาเลีย ไข้เลือดออก ไข้สมองอักเสบ โรคคอตีบ และเกิดเชื้อโรคชนิดใหม่ เช่น โรคซาร์ส "Climate Change" ได้สร้างความเสียหายและทวีความรุนแรงขึ้นทุกปีๆ ลุกลามกระทบไปถึงความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศอย่างต่อเนื่องแบบลูกโซ่ เพราะฉะนั้นทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ไข
ที่มา : TNN EARTH | 24-05-23