TNN โรคแอนแทรกซ์! สธ. ย้ำไทยไม่พบผู้ป่วยตั้งแต่ปี 2544 เช็กอาการของโรคที่นี่

TNN

Health

โรคแอนแทรกซ์! สธ. ย้ำไทยไม่พบผู้ป่วยตั้งแต่ปี 2544 เช็กอาการของโรคที่นี่

โรคแอนแทรกซ์! สธ. ย้ำไทยไม่พบผู้ป่วยตั้งแต่ปี 2544 เช็กอาการของโรคที่นี่

สธ. เฝ้าระวังเต็มที่หลังลาวพบผู้ป่วย "โรคแอนแทรกซ์" 54 ราย ย้ำไทยไม่พบผู้ป่วยตั้งแต่ปี 2544 เช็กอาการของโรคที่นี่

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผย ไทยไม่พบผู้ป่วยโรค “แอนแทรกซ์” ตั้งแต่ปี 2544 กำชับหน่วยงานควบคุมโรคติดตามสถานการณ์ เฝ้าระวังโรคในคนอย่างใกล้ชิด เช็กอาการได้ที่นี่


วันนี้ (27 มีนาคม 2567) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) พบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ 54 ราย และพบสัตว์ป่วยตาย ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ว่า ประเทศไทยไม่มีรายงานพบผู้ป่วยโรคนี้ตั้งแต่ปี 2544 หลังมีรายงานการเกิดโรคใน สปป.ลาว ได้กำชับให้กรมควบคุมโรคประสานหน่วยงานในพื้นที่เพิ่มการเฝ้าระวังโรคทั้งในคนและสัตว์ 


โดยเฉพาะด่านช่องทางเข้าออกที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านแล้ว หากพบผู้ป่วยที่มีอาการเข้าได้กับโรคแอนแทรกช์ จะมีการสอบสวนโรคและรายงานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทันที สำหรับประชาชน หากพบโค-กระบือป่วยตายผิดปกติ ให้รีบแจ้งหน่วยงานปศุสัตว์ในพื้นที่หรือแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่สำคัญ ห้ามสัมผัสเคลื่อนย้ายซากหรือชำแหละเพื่อการบริโภคโดยเด็ดขาด และหากมีประวัติสัมผัสสัตว์ป่วยแล้วมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ ซึ่งโรคนี้สามารถรักษาให้หายได้ด้วยยาปฏิชีวนะ


“จากการติดตามข้อมูลของ สปป.ลาว พบว่ามีการออกประกาศแนวทางควบคุมโรคอย่างเข้มงวด ทั้งห้ามซื้อขายและเคลื่อนย้ายสัตว์เข้าออกภายในเมืองโดยเด็ดขาด ห้ามโรงฆ่าสัตว์ชำแหละโค-กระบือในเมือง ห้ามประกอบอาหารจากสัตว์ที่ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ให้เจ้าของกักขังสัตว์เลี้ยงของตนเพื่อติดตามอาการ หากสัตว์ป่วยซึม ไม่กินอาหาร ขาบวม ท้องโต ให้แยกออกจากฝูงแล้วทำการรักษา และให้ติดตามเฝ้าระวังสัตว์เลี้ยงอย่างใกล้ชิด หากเกิดโรคให้รายงานสัตวแพทย์ในพื้นที่” นพ.โอภาสกล่าว


รู้จัก โรคแอนแทรกซ์


สำหรับโรคแอนแทรกซ์ เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียแบบเฉียบพลันจากเชื้อ Bacillus anthracis เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน เกิดหลังสัมผัสเชื้อขณะชำแหละสัตว์ป่วย หรือสัมผัสซากสัตว์ที่ป่วยตาย โดยเฉพาะวัว ควาย หรือสัตว์กินหญ้า อาการป่วยแบ่งเป็น 3 ระบบตามการสัมผัสเชื้อ คือ 


1.อาการทางผิวหนัง จะมีแผลลักษณะคล้ายบุหรี่จี้บริเวณที่สัมผัสเชื้อ คือ แผลเป็นสีดำและขอบบวมแดง 


2.อาการระบบทางเดินอาหาร จากการรับประทานเนื้อสัตว์ป่วยตายดิบๆ หรือปรุงไม่สุก ทำให้มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน และปวดท้องอย่างรุนแรง มีอัตราป่วยตายร้อยละ 50-60 


3.อาการระบบทางเดินหายใจ จากการหายใจเอาสปอร์เชื้อเข้าไป ทำให้มีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หายใจขัด หายใจลำบาก หน้าเขียวคล้ำ ปอดอักเสบ และเสียชีวิตได้ อัตราการป่วยตายสูงถึงร้อยละ 80–90 แต่มีความเสี่ยงน้อยมากที่จะแพร่โรคจากคนสู่คน




ที่มา กระทรวงสาธารณสุข

ข่าวแนะนำ