'แฮร์รี่ เคน' ศูนย์หน้าระดับพระกาฬ ที่ไร้ถ้วยรางวัลประดับตู้โชว์

จุดเริ่มต้นในชีวิตในการเป็นนักฟุตบอลของ แฮร์รี่ เคน เจ้าตัวได้เริ่มต้นกับทีมเยาวชนของ Ridgeway Rovers ก่อนจะได้มีโอกาสไปฝึกฟุตบอลอย่างจริงจังกับสโมสร อาร์เซน่อล ซึ่งทีมไอ้ปืนใหญ่นั้นคือทีมที่เขาชื่นชอบอย่างมากในวัยเด็ก แต่สุดท้าย เคน ก็ได้ตัดสินใจไปเข้าศึกษาต่อและเล่นฟุตบอลให้กับทีมวัตฟอร์ด เป็นเวลาปีกว่า ๆ จนสุดท้ายแล้วเขาก็ได้เข้ามาอยู่กับสเปอร์ส มันเป็นความเห็นชอบของครอบครัวของเขาว่าที่นี่คือสโมสรที่ เคน จะได้สามารถลงหลักปักฐานในอาชีพนักฟุตบอลได้ดีที่สุด

สเปอร์ส เป็นทีมที่ได้มอบสัญญาอาชีพให้กับ แฮร์รี่ เคน ตั้งแต่ปี 2009 โดยเจ้าตัวได้เริ่มเล่นกับทีมเยาวชนและทีมสำรองไปก่อนในช่วงแรก เคน ก็เป็นเหมือนนักเตะดาวรุ่งทั่วไปโดยเขาถูกปล่อยยืมตัวเพื่อไปหาประสบการณ์และโอกาสลงสนามกับทีมอื่นอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เลย์ตัน โอเรี่ยน , มิลล์วอล์ , นอริส ซิตี้ และทีมดังอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ได้แสดงผลงานอะไรโดดเด่นมากนัก แต่กลับกัน เคน กับเก็บประสบการณ์เล่านั้นเพื่อเป็นบทเรียนที่ล้ำค่ามาก ๆ

โดยในฤดูกาล 2012-2013 คือฤดูกาลแรกที่ แฮร์รี่ เคน ได้ลงสนามในฐานะตัวจริงให้กับทัพไก่เดือยทอง โดยเจ้าตัวได้ร่วมเล่นกับนักเตะดัง ๆ มากมาย ที่อยู่ในลิสแดนหน้า ณ เวลานั้น ไม่ว่าจะเป็น ครินท์ แดมป์ซีย์ , เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ , แกเร็ธ เบล และ เจอร์เมน เดโฟ เหล่านักเตะที่ว่ามาถือว่าเป็นขวากหนามสุดโหดมาก หากว่าเขาจะก้าวขึ้นไปสู่ตัวจริงของชุดใหญ่ ในที่สุดเวลาของ เคน ก็มาขึ้น เพราะนักเตะดัง ๆ ถูกขายออกจากทีมอย่างต่อเนื่องด้วยเหตุผลต่างๆนา ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงินหรืออายุนักเตะที่มากขึ้น ด้วยการที่ทีมไม่ได้มีงบประมาณการทำทีมสูงเหมือนทีมระดับท็อปในเวลานั้น ทำให้พวกเขาต้องปั้นนักเตะเยาวชนขึ้นมาสู่ทีมใหญ่ แต่ในกรณี ของ แฮร์รี่ เคน นั้นต่างออกไปอย่างมาก 

ในฤดูกาล 2014-2015 เป็นฤดูกาลที่ 3 ที่ แฮร์รี่ เคน ในวัย 21 ปี ได้ลงเป็นตัวจริงให้ชุดใหญ่ของไก่เดือยทอง ซึ่งเขาได้แสดงผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในพรีเมียร์อังกฤษ โดยเจ้าตัวสร้างผลงาน ลงสนามไปทั้งหมด 34 นัด และยิงได้ถึง 21 ประตูในฤดูกาลนั้น แถมยังสามารถคว้ารางวัล PFA Team of the Year ได้เป็นครั้งแรกในปีนั้นอีกด้วย และในปีนั้นเจ้าตัวคว้ารางวัล PFA Young Player of the Year และรางวัล Tottenham Hotspur Player of the Year พ่วงมาด้วย 

หลังจากนั้น แฮร์รี่ เคน ก็เดินหน้าถล่มประตูได้อย่างต่อเนื่องและขึ้นมายึดตำแหน่งศูนย์หมายเลขหนึ่งของทีมอย่างถาวร จากฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเขา จนทำให้ได้รับความสนใจจากทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปอย่างมากมายโดยเฉพาะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เรอัล มาดริด คือสองทีมที่ให้ความสนใจดาวยิงอนาคตไกลรายนี้ จนทำให้สเปอร์ส ต้องออกมาขู่ว่าหากใครต้องการตัว แฮร์รี่ เคน ต้องจ่ายมา 200 ล้านปอนด์ ถึงจะได้ตัวเขาไป

ที่มาภาพ : AFP

เวลาผ่านไปเนิ่นนานจนมาถึงในปี 2023 แฮร์รี่ เคน ก็อยู่กับทัพไก่เดือยทองมาแล้ว 13 ปี เต็ม โดยเขาได้รางวัลส่วนตัวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ตำแหน่งดาวซัลโวแห่งศึกพรีเมียร์ลีก 3 ครั้ง และในศึกยูโรปา ลีก รอบคัดเลือกอีก 1 ครั้ง แม้แต่ในนามทีมชาติในศึกยูโร รอบคัดเลือก ปี 2020 อีก 1 ครั้ง และฟุตบอลโลก 2018 อีก 1 ครั้ง 

แต่สิ่งที่ แฮร์รี่ เคน ยังขาดหายไปคือถ้วยรางวัลต่างๆ สำหรับตนเองและสโมสร ตอนนี้เขาเปรียบเหมือนเจ้าชายที่ไร้มงกุฎ สำหรับปีนี้เขาหมดสิทธิ์ในการลุ้นแชมป์เป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เพิ่งจะตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนที่ผ่านมา สกอร์รวมสองนัดแพ้เอซี มิลาน ไป 1-0

ทางด้านอดีตนักเตะชั้นนำของโลกอย่าง เธียร์รี่ อองรี และ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ต่างก็พากันออกมาแสดงความคิดเห็นถึง แฮร์รี่ เคน ว่าควรจะย้ายออกจากท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ภายในซีซั่นนี้ เพื่อไปร่วมทัพกับทีมที่มีโอกาสลุ้นแชมป์ หรือทีมบิ๊กเนมในลีกยุโรปได้แล้ว

ริโอ เฟอร์ดินานด์ กล่าวกับ BT Sport ว่า "ไม่ว่าพวกเขาอาจจะไม่ได้แชมป์ แต่แฟนบอลสเปอร์สก็หวังว่า แฮร์รี่ เคน จะเป็นนักเตะคนนั้น พวกเขาคงหวังว่าเคนต้องการจะเป็น มิสเตอร์ สเปอร์ส ไปตลอดอาชีพ"

"ถ้าผมเป็นเขา ผมคงย้ายไปทีมอื่น เพื่อคว้าแชมป์ เมื่อไม่นานมานี้พวกเขาได้ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ และจบรองแชมป์ในพรีเมียร์ลีก แต่ก็ดูเหมือนว่า สเปอร์ส ไม่ใช่สโมสรซึ่งต่อยอดขึ้นไปอีกเรื่อยๆอย่างที่เขาต้องการ เขาต้องย้ายไปในที่ที่เขาคิดว่าจะสามารถคว้าถ้วยแชมป์ให้ได้เร็วที่สุด"

ส่วน เธียร์รี่ อองรี ออกมากล่าวกับ CBS Sports ว่า "ถ้าผมเป็นเขา ผมจะย้ายออกไป มันขึ้นอยู่กับเขาที่จะเลือก แต่เป็นผมจะย้ายนะ เขาต้องรู้ว่าตัวเองอยากไปที่ไหน"

"นักเตะที่มีความสามารถแบบเขา ไม่ควรพูดถึงแค่เป้าหมายของตัวเองในช่วงบั้นปลายอาชีพ ถ้าผมเป็นเขา ผมคงนอนไม่หลับเลยถ้าให้พูดถึงเป้าหมายทั้งหมด"

"ฟังนะ มันเป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมและผมก็เคารพเขามาก ผมคิดว่าเขาโดดเด่นมาก ๆ แต่ถ้านั่นเป็นสิ่งเดียวที่คุณสามารถทำได้เมื่อจบอาชีพ นั่นเป็นเรื่องที่ยากสำหรับผม"

ทุกสิ่งทุกอย่างตอนนี้ขึ้นอยู่กับ แฮร์รี่ เคน แล้วว่าเขาต้องการจะอยู่และช่วยทีมต่อไป หรือถึงเวลาที่ต้องออกไปหาความท้าทายใหม่ เพื่อมองถึงการไล่ล่าแชมป์ ที่มันชัดเจนมากขึ้นกว่านี้