'ตระกูลเกลเซอร์' เปลี่ยนใจไม่ขาย 'แมนยู' ให้กลุ่มทุนกาตาร์แล้ว
มีรายงานว่า การขายสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจไม่เกิดขึ้น พี่น้องตระกูลเกลเซอร์ เกิดเสียดายความเป็นเจ้าของทีม โดยอาจจะแค่แบ่งขายหุ้นบางส่วนเท่านั้น
วันนี้ (14 ก.พ. 66) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในช่วงที่ผ่านมามีข่าวว่า อัฟราม และโจเอล สองพี่น้องตระกูลเกลเซอร์ ประกาศขายสโมสรให้กลุ่มทุน หรือคนที่ต้องการจะเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร โดยมีผู้ให้ความสนใจเป็นอย่างมากที่จะเข้ามาแย่งซื้อกิจการของ “ปีศาจแดง”
ก่อนหน้านี้ กลุ่มแฟนบอลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ออกมาประท้วงขับไล่ ตระกูลเกลเซอร์ มาอย่างต่อเนื่อง หลังเข้ามาบริหารทีมแล้วผลงานไม่น่าประทับใจ จนมีข่าวประกาศขายทีม บวกกับเมื่อ เอริค เทนฮาก กุนซือชาวดัชต์เข้ามาคุมทัพแล้วผลงานดีขึ้น เลยทำให้กระแสต่างๆ ลดลงไปมาก เพราะคาดว่า เจ้าของคนใหม่น่าจะเข้ามาบริหารทีมให้ดีขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์ สื่อท้องถิ่นของประเทศอังกฤษ รายงานข่าวว่า การขายสโมสรของ ตระกูลเกลเซอร์ อาจจะมีเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเมื่อ พี่น้องเกลเซอร์ จะเข้าซื้อหุ้นกันเองทำให้ หุ้นส่วนใหญ่ของสโมสรยังเป็นของตระกูลเกลเซอร์ ซึ่งยังคงมีอำนาจในการบริหารทีมเหมือนเดิม สิ่งที่เปลี่ยนก็คือ ชื่อเจ้าของสโมสร เท่านั้น
รายงานระบุว่า อัฟราม และโจเอล เกลเซอร์ เกิดความลังเลและเสียดายหากต้องขายสโมสรแบบขายขาด ทำให้มีการปรับเปลี่ยนแผนเป็นการซื้อหุ้นจากพี่น้องผู้เป็นเจ้าของร่วมอีก 4 รายอันประกอบด้วย ไบรอัน, เอ็ดเวิร์ด, ดาร์ซี, เควิน ที่ปัจจุบันเป็น กรรมการบริหารสโมสรอยู่ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีกลุ่มทุน และบุคคลที่สนใจซื้อสโมสรไม่ว่าจะเป็น เซอร์จิม แร็ตคลิฟฟ์, อีลอน มัสก์, กลุ่มทุนกาตาร์ และกลุ่มทุนซาอุดิอาระเบีย ซึ่งอาจจะเป็นการขายหุ้นส่วนน้อยให้เท่านั้น
