TNN online 'เทน ฮาก' ยังไม่มองแชมป์พรีเมียร์ลีก ขอพัฒนาศักยภาพทีมต่อไป

TNN ONLINE

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

'เทน ฮาก' ยังไม่มองแชมป์พรีเมียร์ลีก ขอพัฒนาศักยภาพทีมต่อไป

'เทน ฮาก' ยังไม่มองแชมป์พรีเมียร์ลีก ขอพัฒนาศักยภาพทีมต่อไป

เอริค เทน ฮาก นายใหญ่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยันว่าตอนนี้พวกเขามุ่งพัฒนาต่อไปเท่านั้น ไม่มีความคิดเรื่องแชมป์ พรีเมียร์ ลีก พร้อมชื่นชมลูกทีมที่รับมือกับสถานการณ์ยากลำบากได้ดีขึ้นเยอะ

เกมซูเปอร์บิ๊กแมตช์ แห่งเมืองแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ เป็นทางด้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 โดยได้ประตูจาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ส่วน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ประตูจาก แจ็ค กรีลิช


ผลการแข่งขันทำให้ ยูไนเต็ด ขึ้นไปอยู่อันดับ 3 ของตาราง พรีเมียร์ลีก ตามหลังจ่าฝูง อาร์เซน่อล 6 คะแนน และฟอร์มอันร้อนแรงทำให้ถูกยกเป็นอีกหนึ่งทีมที่กำลังลุ้นแชมป์ในซีซั่นนี้ต่อจาก อาร์เซน่อล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้


อย่างไรก็ตาม เทน ฮาก ไม่คิดแบบนั้น ให้สัมภาษณ์หลังจบการแข่งขันกับ Sky Sports กล่าวถึงเรื่องแชมป์ พรีเมียร์ลีก ที่สโมสรห่างหายไปเกือบสิบปี


"แฟนบอลสามารถฝันถึงการเป็นแชมป์ลีกได้ แต่เราไม่ทำแบบนั้น เราต้องไม่เหลิงและยอมรับความจริงที่ว่าเรายังมีอีกหลายอย่างต้องพัฒนา"


"ตัวอย่างในเกมนี้กับ ซิตี้, หลังจบครึ่งแรกเราเสียการครองเกมเป็นอย่างมาก ซึ่งนั่นไม่สามารถเกิดขึ้นได้ แล้วจากนั้นเราก็โดนนำก่อนอย่างไม่จำเป็น"


"ในเกมฟุตบอลระดับท็อป รายละเอียดอันเล็กน้อยมีผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ และเราต้องพัฒนาเรื่องนี้ต่อไป"


"ชัดเจนเลยว่าเราได้พัฒนาขึ้นแล้ว แต่ยังเหลือหนทางอีกยาวไกล มีหลายด้านที่เราต้องพัฒนาขึ้น แต่เรากำลังก้าวหน้าขึ้น นั่นค่อนข้างชัดเจนเลย"


"หลังพักครึ่งแรก เรากลับมาด้วยฟอร์มที่ไม่ดีนัก, แมนฯ ซิตี้ มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างซึ่งสร้างปัญหาและทำให้เราเจอความยากลำบาก เราพยายามจะกลับมาครองเกมให้ได้อย่างในครึ่งแรก"


"ครึ่งแรกเราเล่นได้ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะเกมรับและการทำตามแท็คติก เราเข้าสกัดได้ดีจากนั้นในจังหวะสวนกลับ เราก็สร้างโอกาสดีๆ ได้หลายครั้ง"


"ความรู้สึกช่วงพักครึ่งคือเราควรจะเป็นฝ่ายออกนำในเกมนี้ แต่หลังจากนั้นมันก็เป็นเกมที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง"


"เราไม่ได้เพรสซิ่งใส่ โรดรี้ ส่วน ไคล์ วอล์คเกอร์ ก็หุบเข้ากลางมาเกินไป และเราไม่สามารถครองเกมตรงนั้นได้ แต่จากนั้นเราก็ทำประตูได้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม"


"เรามักจะพูดกันเรื่องของการพัฒนาทีมและแท็คติการเล่น แต่อีกงานหลักของสตาฟฟ์โค้ชคือการทำงานเพื่อกำหนดทัศนคติของทีม ซึ่งทัศนคติเหล่านั้นมีหลายอย่าง และหนึ่งในนั้นคือความเป็นนักสู้"


"ทีมนี้กำลังพัฒนาเรื่องวิธีรับเมื่อเจออุปสรรค, ความยากลำบาก หรือช่วงเวลาที่เจ็บปวดอย่างเช่นการโดนนำก่อน แล้วจากนั้นเดินหน้าต่อไป"


"เรามีผู้เล่นที่มีประสบการณ์พอจะรู้ว่าแค่จังหวะเดียวก็ทำให้เกมเปลี่ยนได้ และผมคิดว่าเรารับมือการสถานการณ์แบบนี้ได้ดีขึ้นเยอะเมื่อเทียบกับหลายเดือนก่อน"

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง