TNN online จาก 'เดอะ แบก' สู่ 'เดอะ บ่น' ปีชงเข้มๆ ของ 'บรูโน่ แฟร์นานเดส'

TNN ONLINE

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

จาก 'เดอะ แบก' สู่ 'เดอะ บ่น' ปีชงเข้มๆ ของ 'บรูโน่ แฟร์นานเดส'

จาก 'เดอะ แบก' สู่ 'เดอะ บ่น' ปีชงเข้มๆ ของ 'บรูโน่ แฟร์นานเดส'

บรูโน่ แฟร์นานเดส จากกองกลางที่พลิกเกมและโฉมหน้าให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ตั้งแต่ที่ย้ายมาค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ตั้งแต่ปี 2020 เขาโชว์ผลงานได้อย่างโดดเด่น แต่ทว่าในซีซั่นนี้ดูเขาเปลี่ยนไปทั้งผลงาน และการควบคุมอารมณ์ในสนาม

ยังคงกู่ไม่กลับสำหรับฟอร์มการเล่นของ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ล่าสุดบุกไปโดน อาร์เซนอล เปิดรังถล่ม 3-1 โอกาสติดท็อปโฟร์ ในฤดูกาลนี้ต้องบอกว่าแทบจะจบอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจุดเปลี่ยนที่เปลี่ยนโฉมหน้าในเกมนี้ ก็คงจะเป็น จังหะการพลาดจุดโทษของ บรูโน่ แฟร์นานเดส ที่ทำให้ ปีศาจแดง พลาดโอกาสตีเสมอ หลังซัดจุดโทษไปชนเสา แถมหลังจากนั้น เจ้าตัวก็เหมือนหมดใจไปดื้อๆ เสียบอลตรงหัวกะโหลก และโดน ชาก้า ยิงฝังเป็น 3-1 


เป็นอีกหนึ่งเกมที่ บรูโน่ แฟร์นานเดส เล่นได้อย่างย่ำแย่ บวกกับผลงานโดยรวมในระยะหลังก็ไม่ได้ดีมาพักใหญ่แล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากฟอร์มของทีม เมื่อมีผลงานแย่ สภาพจิตใจแย่ ทำให้นี่เป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ไม่ดีเลยสำหรับ บรูโน่ สายตาของ บรูโน่ ในช่วงที่ถือบอลมายิงจุดโทษ บ่งบอกถึงแรงกดดันอย่างชัดเจน


สถิติของ บรูโน่ ในเกมกับ อาร์เซน่อล

- สร้างสรรค์โอกาส 4 ครั้ง

- ยิง 3 ครั้ง 

- เข้าสกัด 3 ครั้ง 

- 1 ใบเหลือง 

- 1 พลาดจุดโทษ 

- ยิงไม่เข้ากรอบเลยในเกมนี้


จาก 'เดอะ แบก' สู่ 'เดอะ บ่น' ปีชงเข้มๆ ของ 'บรูโน่ แฟร์นานเดส'

ที่มาภาพ : AFP


จอมทัพโปรตุกีส ยิงประตูครั้งสุดท้ายในเกมกับ ลีดส์ เมื่อสองเดือนที่แล้ว แต่ผลงานในเกมลีก 7 นัดล่าสุดของ บรูโน่ แฟร์นานเดส ไม่มีประตู , ไม่มีแอสซิสต์ เลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าจะเป็นเกมกับ วัตฟอร์ด ,แมนฯซิตี้ ,เลสเตอร์ ซิตี้ ,เอฟเวอร์ตัน ,นอริช ซิตี้ ,ลิเวอร์พูล และเกมล่าสุดกับ อาร์เซน่อล


แถมผู้รายที่อยู่รายล้อม บรูโน่ ก็พากันฟอร์มออกทะเลไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น

- ซานโช่ 5 เกมหลังสุด 0 ประตู 0 แอสซิสต์

- แรชฟอร์ด 10 นัดหลังสุด 0 ประตู 0 แอสซิสต์

- ป็อกบา 5 เกมหลังสุด 0 ประตู 0 แอสซิสต์


นอกจากนี้ จากการพลาดจุดโทษทำให้ บรูโน่ เป็นผู้เล่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คนแรกที่พลาดจุดโทษสองครั้งในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลเดียว นับตั้งแต่ เท็ดดี้ เชอริงแฮมในปี 1997-98 นอกจากนี้ การพ่ายแพ้ต่อ อาร์เซน่อล นับเป็นการแพ้  4 เกมเยือนติดต่อกันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ของทัพ ปีศาจแดง ด้วย โดยแพ้ให้กับ แมนฯซิตี้ ,เอฟเวอร์ตัน ,ลิเวอร์พูล และเกมล่าสุดกับ อาร์เซน่อล


ดังนั้นช่วงนี้จึงถือเป็นช่วงที่เลวร้ายสุดขีดของ บรูโน่ แฟร์นานเดส นับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หากลองนึกย้อนกลับไป บรูโน่ เคยผ่านสถานการณ์เช่นนี้มาแล้ว ตอนย้ายมาร่วมทัพ ปีศาจแดง ใหม่ๆ เจ้าตัวถูกเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายว่าดีพอสำหรับค่าตัว 55 ล้านปอนด์หรือไม่ 


สุดท้ายก็ผ่านมาได้ แถมยังมีท่าดีใจเอามือปิดหูไม่สะทกสะท้านกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ บรูโน่ พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นของจริง เจ้าตอนนั้นเจ้าตัวใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน ปรับตัวให้เข้ากับ ยูไนเต็ด กลายเป็นคนแบกทีมภายในระยะเวลาอันรวดเร็วในยุคของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์  


บรูโน่ เป็นนักเตะประเภทแพสชั่นและอารมณ์ร่วมสูง แต่มีจุดเดือดต่ำ หากใครที่ตามฟุตบอลอิตาลี อาจจะเคยเห็นโมเม้นระเบิดอารมณ์ของหมอนี่มาแล้วหลายครั้ง รวมไปถึงตอนที่อยู่กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ดังนั้นช่วงหลังเราจึงมักเห็น บรูโน่ ออกอาการฟิวส์ขาดใส่คู่แข่งและเพื่อนร่วมทีมอยู่บ่อยครั้ง


จาก 'เดอะ แบก' สู่ 'เดอะ บ่น' ปีชงเข้มๆ ของ 'บรูโน่ แฟร์นานเดส'

ที่มาภาพ : AFP


ประกอบกับผลงาน ฟอร์มการเล่นของต้นสังกัด ณ เวลานี้ก็คงไม่มีผู้เล่นคนไหนที่เล่นฟุตบอลอย่างสบายใจเฉิบ ดังนั้นก็ไม่แปลกที่ บรูโน่ จะออกอาการไม่สบอารมณ์ กับผลงานของตัวเอง รวมไปถึงผลงานของเพื่อนร่วมทีม


ดูเหมือนว่าปีนี้จะเป็นปีชงสำหรับแข้งชาวโปรตุกีส เพราะหากยังจำกันได้ ก่อนเกม แดงเดือด เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีข่าวว่า บรูโน่ แฟร์นานเดส ประสบอุบัติเหตุรถชนเมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา แต่โชคดีที่เจ้าตัวไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด


ย้อนกลับไป เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว บรูโน่ พลาดจุดโทษ ในเกมพรีเมียร์ลีก ส่งผลให้ทีมเปิดบ้านแพ้ แอสตัน วิลล่า 0-1 ซึ่งหลังจบเกม บรูโน่ โดนทัวร์ลงชุดใหญ่ จนผ่านวิกฤตในช่วงเวลานั้นมาได้ แต่ก็ต้องมาเจอมรสุมลูกใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม กับช่วงเวลาที่ตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เลยก็ว่าได้ 


หลังจบเกม ราล์ฟ รังนิก กุนซือรักษาการณ์ ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการพลาดจุดโทษของลูกทีมอย่าง บรูโน่ ว่า 


 "บรูโน่ หรือนักเตะคนอื่นๆไม่ควรยิงลูกโทษหากว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อยู่ในสนาม บรูโน่ หลงระเริง เขากล้าดียังไงที่ไม่ปล่อยให้ โรนัลโด้ ยิงลูกโทษทั้งๆที่รู้ว่ามันเป็นจังหวะที่สำคัญ มันสรุปถึงซีซั่นของ ยูไนเต็ด ว่านักเตะที่มีอีโก้สร้างความเจ็บปวดให้ทีม"


"ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกเขาเลือก บรูโน่ เป็นกัปตันของเราทั้งๆที่เรามี โรนัลโด้ มันไม่ได้แสดงความเคารพต่อ โรนัลโด้ เลย บรูโน่ ยิงลูกโทษพลาดทั้งๆที่เรามีนักเตะที่ยิงลูกโทษได้อย่างยอดเยี่ยมอยู่ในทีม มันเกิดอะไรขึ้น” แต่ผมคุยกับเขาหลังจบเกมแล้ว และเขาบอกว่าเขาไม่รู้สึกว่าเขาควรยิงลูกโทษ ด้วยเหตุนี้เขาจึงบอกว่ามันน่าจะดีกว่าหาก บรูโน่ จะได้ทำหน้าที่" 


จาก 'เดอะ แบก' สู่ 'เดอะ บ่น' ปีชงเข้มๆ ของ 'บรูโน่ แฟร์นานเดส'

ที่มาภาพ : AFP


ส่วนประเด็นการสังหารจุดโทษ รุ่นพี่คนบ้านเดียวกันอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ย่อมรู้ดีว่า แข้งรุ่นน้องรายนี้ กำลังตกอยู่ภายใต้ความกดดัน ดังนั้นการมอบหน้าที่ให้สังหารจุดโทษ ประกอบกับที่สภาพจิตใจของตัวเองไม่พร้อมจากปัญหาส่วนตัว จึงอาจเป็นโอกาสให้ บรูโน่ ปลดล็อคเพื่อเรียกความมั่นและคลายความกดดันได้ เพราะหากลองมองกลับกันถ้าเกิด บรูโน่ ยิงเข้าและโฉมหน้าของเกมเปลี่ยนไป คนที่ถูกถล่มมากที่สุดหลังจบเกมของ ปีศาจแดง ก็อาจจะไม่ใช่ บรูโน่ แฟร์นานเดส


แต่สุดท้ายพอพลาดไป ก็ต้องรับผิดชอบยอมรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า นอกจากการพลาดจุดโทษแล้ว ฟอร์มการเล่นส่วนตัวของ บรูโน่ ก็ถือว่าน่าผิดหวัง แถมเมื่อไม่มีเจ้าพ่อคอนเทนต์ อย่าง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ในเกมนี้ ดังนั้น บรูโน่ แฟร์นานเดส จึงรับไปเต็มๆ 


สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับการมาเยือนของทีมอันดับ 3 อย่าง เชลซี ในวันที่ 29 เมษายน นี้ เวลานี้ 01.45 น.

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง