หวั่นหลบหนี!! ศาลให้จำคุก ‘ซึงรี’ ทันที ไม่รอพ้นกรม

ถัดจากเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (12 ส.ค. 64) แฟนเพลงเคป๊อปได้ทราบข่าวเรื่องที่ศาลทหารเกาหลีตัดสินจำคุก “ซึงรี” หรือ “อีซึงฮยอน” (Seungri) ศิลปินหนุ่มคนดัง เป็นเวลา 3 ปี ปรับอีกกว่า 30.6 ล้านบาท หลังการพิจารณาคดีมายาวนานกว่า 2 ปี ชี้ว่าจำเลยมีความผิดทั้ง 9 ข้อกล่าวหา 

โดยเฉพาะกรณีการจัดให้มีการค้าประเวณีเพื่อเอาใจลูกค้านักธุรกิจต่างแดน รวมทั้งลักลอบเล่นการพนันในต่างแดนอยู่เป็นประจำ นอกจากนี้ยังมีประเด็นแอบถ่ายคลิปอนาจารและทำการจัดจำหน่ายเผยแพร่, ฉ้อโกงเงินกองทุนธุรกิจ, พยายามทำลายหลักฐานเพื่อปกปิดความผิด, บิดเบือนข้อมูลทางการด้วยเปิดสถานเริงรมย์แต่ทำหนังสือขออนุญาตเปิดร้านอาหาร รวมถึงละเมิดกฎการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ

ซึ่งที่ผ่านมา ตัวนักร้องคนดังที่ประกาศลาวงการตั้งแต่ปี 2019 ยืนยันปฏิเสธเกือบทุกข้อกล่าวหายกเว้นเรื่องผิดกฎการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ แต่ในที่สุดแล้วเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ศาลตัดสินว่า “ซึงรี” วัย 30 ปี ผิดทั้ง 9 ข้อหาดังกล่าวมา เป็นที่มาให้หลังถูกตัดสินจำคุก 3 ปีและปรับหนัก โดยเขาถูกนำตัวเข้าชดใช้ความผิดในเรือนจำทันที รวมทั้งถูกบันทึกชื่อลงทะเบียนประวัติอาชญากรทางเพศด้วย

ทั้งนี้ ศาลให้เหตุผลว่าเฉพาะความผิดเรื่องการจัดหาสาวบริการมาเอาใจลูกค้าหรือนักลงทุนต่างแดนที่ “ซึงรี” และ “ยูอินซอก” (Yoo In Suk) หุ้นส่วนของเขา ร่วมกันทำมาหลายครั้งเพื่อหวังผลกำไรเข้ากระเป๋าตัวเอง ถือเป็นความผิดอาญาทางเพศที่ส่งแรงกระเพื่อมในทางเสื่อมที่ร้ายแรงต่อสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคนกระทำคือศิลปินคนดังที่มีชื่อเสียง 

ขณะเดียวกัน คำให้การของจำเลยก็กลับไปกลับมาตั้งแต่คำให้การกับตำรวจ, อัยการ มาจนถึงชั้นศาล ซึ่งนั่นสะท้อนถึงความไม่น่าเชื่อถือและพยายามปกปิดความผิด ไม่มีสำนึกในสิ่งที่ได้กระทำลงไป 

และเนื่องจากศาลเกรงว่าผู้กระทำผิดอาจพยายามหลบหนีออกนอกประเทศ จึงให้ส่งตัวเข้าไปชดใช้ความผิดในคุกทันทีโดยไม่รอให้ “ซึงรี” เสร็จภารกิจรับใช้ชาติในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้เสียก่อน

สำหรับ “ซึงรี” เดบิวต์กับบอยแบนด์วง “บิ๊กแบง” (Big Bang) ในฐานะน้องเล็กของวง เมื่อปี 2005 ก่อนประกาศอำลาวงรวมถึงวงการบันเทิงเมื่อปี 2019 หลังทยอยถูกแฉประเด็นฉาวโฉ่สืบเนื่องจากหลายคดีต้องสงสัยไม่ชอบมาพากลในคลับ “เบิร์นนิ่ง ซัน” (Burning Sun) ที่เขาร่วมบริหาร ซึ่งเกี่ยวกับการตัดสินคดีครั้งนี้ ชาวเน็ตเกาหลีส่วนใหญ่มองว่าเป็นคดีที่ยืดเยื้อมากแต่เมื่อทำผิดจริงก็ต้องว่ากันไปตามความผิด