ยังเป็นเพื่อนกันได้ "โอบ-มะปราง" เปิดใจหลังออกงานด้วยกันครั้งแรก ยืนยัน ไม่มีคบซ้อนแน่นอน

หลังจากออกมาประกาศจบความสัมพันธ์รัก 7 ปี สำหรับคู่ของ "โอบ โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์" และ "มะปราง อลิสา ขุนแขวง" ล่าสุดทั้งคู่ได้มีโอกาสได้ออกงานอีเวนต์ด้วยกันครั้งแรกตั้งแต่ประกาศเลิกรากันมา

ภาพจาก True inside

ซึ่งทางโอบและมะปราง ก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ของทั้งคู่ว่าตั้งแต่เลิกกันมาเป็นยังไงกันบ้าง โดยส่วนของสาวมะปรางถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ออกมาตอบคำถามกับทางสื่อหลังจากมีข่าวออกมา

สาวมะปรางเผยว่า ตอนนี้ก็รู้สึกสบายใจขึ้นแล้ว ยังไม่มีโอกาสได้คุยกับหนุ่มโอบนอกจากเรื่องงาน ส่วนเรื่องที่พี่สาวโอบโพสต์เดือดก็ยังไม่ได้คุยกับทางฝั่งนั้น พร้อมบอกว่า เราไม่สามารถควบคุมความคิดใครได้

โดยสาวมะปรางกล่าวว่า "ก็โอเคค่ะ ก็สบายใจขึ้น แต่ก็กดดันนิดนึงค่ะ วันนี้ค่อนข้างยุ่งก็เลยไม่ได้คุยกันเป็นพิเศษ แต่ก็คุยเรื่องงานกัน ไม่รู้สึกเกร็งค่ะ คือเราก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่ก็คิดว่าเขาน่าจะโอเค เรื่องที่เข้าใจผิดก็ไม่ได้คุยอะไรกันค่ะ เพราะว่าสุดท้ายเรามีคนที่รู้เรื่องราวว่ามันเกิดอะไรขึ้นอยู่แบ้ว ก็เลยไม่ได้มาพูดคุยกันค่ะ ก็เป็นเรื่องปกติที่คนจะปะติดปะต่อข้อมูลที่มีอยู่ ก็ไม่ได้ว่าอะไร ใครอยากจะคิดในรูปแบบไหน ทุกวันนี้เราสองคนรู้ว่าตอนนี้เป็นในรูปแบบเพื่อนมากกว่า เราสามารถทำงานร่วมกันได้ปกติ"

ภาพจาก True inside

"นอยด์ไหม คือถ้ามีข่าวที่เราเห็นละค่อนข้างแรง เราก็นอยด์ คอมเมนต์แย่ๆ ก็ค่อนข้างเยอะ เราก็ต้องทำใจยอมรับมากกว่า ว่ามันสามารถเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ ไม่สามารถควบคุมความคิดทุกคนได้ บางทีเวลาที่มันเกินไปมากๆ เราก็ไม่รู้ว่าเขาพูดถึงเราหรือเปล่า เราก็แค่อ่านให้เรารู้สึกสบายใจมากกว่า ก็ไม่คิดจะดำเนินการอะไร ไม่อยากทำให้เป็นเรื่องเป็นราวค่ะ ตอนนี้มันมีมันข้อมูลเยอะมากที่ปรางไม่สามารถควบคุม แต่ว่าคนที่รู้จักเรา เพื่อนเรา รวมถึงตัวเขาเองก็รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เราก็ไม่ได้มีปัญหากัน ยืนยันไม่ได้คบซ้อนค่ะ

กับพี่สาวโอบตอนที่เราอยู่ด้วยกันก็สนิทกันค่ะ ก็ไปงานรับปริญญาเขา ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น น่าาจะมีเรื่องเข้าใจผิด หนูก็ไม่ได้คุยอะไรค่ะ ตอนนี้ก็ไม่ติดใจอะไรค่ะ ทุกวันมีสิ่งที่ต้องโฟกัสเยอะมากค่ะ"

ภาพจาก True inside

ถัดมาหนุ่มโอบก็ได้ให้สัมภาษณ์ในงานเดียวกัน โดยเผยว่า ที่น้ำหนักลงไปเยอะเพราะต้องถ่ายละคร ไม่ได้กินไม่ลงอะไรขนาดนั้น ส่วนเรื่องที่พี่สาวฝากมาขอโทษมะปราง จะพยายามหาเวลาคุย พร้อมตอบชัดว่ายังเป็นเพื่อนกันได้อยู่

"ที่น้ำหนักลดเพราะต้องถ่ายละครแล้วก็ฟิตหุ่นครับ มันก็ไม่เชิงกินไม่ได้อะไรขนาดนั้น เพราะทุกเช้าแม่ก็ทำกับข้าวให้ตลอด ช่วงนี้ก็มีเพื่อนที่คอยให้กำลังใจอยู่ตลอด ตอนนี้เราก็ต้องเดินหน้าต่อได้แล้ว แข็งแรงในระดับนึงแล้ว ตอนเจอกันก็โอเค เราก็ทำงานร่วมกันได้ ก็รู้สึกอยู่แล้วว่าต้องเป็นที่จับตามอง ก็โอเคนะครับ ผ่านไปด้วยดี ไม่ได้อึดอัดอะไร แต่วันนี้ยังไม่ได้คุยกันเลย หลังจากเกิดเหตุการณ์ก็ไม่ได้คุยกันเลย จริงๆ เราก็เกรงใจมากกว่า เราก็ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรอยู่หรือเปล่า ปกติในช่วงนั้นเราจะรู้ตารางเขา แต่ตอนนี้ก็กลัวไปรบกวนเขา มันเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อหลายๆ คน ก็เลยรู้สึกอยากพูดต่อหน้า ไม่อยากโทรศัพท์หรือไลน์ไป แต่ก็ต้องทำเพราะพี่ฝากมาขอโทษแล้ว"

ภาพจาก True inside

เมื่อกี้เขาก็พูดเหมือนกันว่าไม่รู้ว่าโอบคิดอะไรอยู่  "โอบไม่ได้คิดอะไรเลยครับ ตอนนี้ว่างเปล่า เบลออยู่ครับ ยังเป็นเพื่อนกันได้ ก็อย่างที่บอก เจอกันก็ทักทายกันได้ แต่ไม่ได้ขนาดว่าไปถามเป็นยังไงบ้าง อะไรงี้ครับ

ตอนขอโทษก็อยากจะอยู่แค่ 2 คน เพราะพอเวลาคนอื่นอยู่ด้วยเรารู้สึกว่ามันเป็นคำของพี่เราฝากมาถึงเขา เราก็อยากให้ถึงเขาโดยตรง ไม่อยากให้คนอยู่เยอะครับ 

เรื่องหัวใจก็น่าจะว่างไปสักพักใหญ่ๆ ครับ ตอนนี้ก็งงๆ อยู่ มันคงยังไม่ชิน ปกติเวลาว่างก็มีคนให้โทรหา ไปหา แต่วันนี้มันไม่มี ก็เลยแบบโทรหาเพื่อนเอาละกับาง แต่บางคนก็ยุ่ง เราก็ไล่โทรหาทีละคน ช่วงแรกๆ มันก็ยากน้อยเพราะเรายังจัดการความรู้สึกตัวเองไม่ค่อยได้"

ภาพจาก True inside