“อีซองซู” ขอให้ “อีซูมาน” คุกเข่าขอโทษ ยกเลิกการควบรวมกิจการกับ “HYBE”
ดราม่าระหว่างผู้บริหารค่ายดัง "SM Entertainment" ยังไม่จบสิ้น เมื่อ “อีซองซู” หลานชายของ “อีซูมาน” เรียกร้องให้ออกมาขอโทษกรณีขายหุ้นให้กับ HYBE
ดราม่าระดับสั่นสะเทือนวงการบันเทิงเกาหลี เรื่องที่ค่ายดัง HYBE กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SM Entertainment ยังไม่จบ เมื่อ“อีซองซู” ( Lee Sung Soo) หลานชายของ“อีซูมาน” (Lee Soo Man) ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและ CEO SM Entertainment ได้ออกมาอัดคลิปเป็นครั้งที่ 2 เรียกร้องให้ลุงของเขาออกมาคุกเข่าขอโทษพร้อมกันต่อเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดและยุติเรื่องการขายหุ้นซึ่งจะส่งผลต่อแนวทางการบริหารของ SM Entertainment เพราะการเข้ามาของ HYBE จะทำให้เกิดการผูกขาดในวงการบันเทิงอีกทั้งยังเป็นการช่วยตัว “อีซูมาน” เองที่มีปัญหาเกี่ยวกับประเด็นการเลี่ยงภาษีอยู่ ไม่ใช่การช่วยพัฒนาบริษัท
อีซองซู เผยว่า SM ไม่เคยขอความช่วยเหลือจาก HYBE และขอให้ยุติการครอบงำกิจการอย่างไม่ได้รับการยินยอมนี้ เนื่องจากผู้ถือหุ้นอื่นไม่ได้ยินยอม ในการเข้ามาครอบครองหุ้น 14.8% ของ HYBE ซึ่งเป็นการซื้อหุ้นในส่วนของ
อีซูมานโดยที่ไม่ได้ปรึกษาผู้บริหารอื่น ยืนยันว่าบริษัทนี้ไม่ใช่แค่ของอีซูมานเพียงคนเดียวแต่ยังมีพนักงานอีกมากมายที่ร่วมสร้างด้วยกันมา นอกจากนี้ยังมีปัญหาด้านการบริหารอีกหลายด้านที่จะเกิดขึ้นหาก HYBE เข้ามามีส่วนร่วมในการครอบงำกิจการในครั้งนี้ ด้านอีซองซู ยังได้ประกาศในคลิปว่าเขาจะลาออกจากการเป็น CEO SM Entertainment ในเดือนมีนาคมนี้ และหากบอร์ดผู้บริหารยินยอมเขา จะไปทำงานด้านการพัฒนาเพลงและทุ่มเทอย่างหนักเพื่อ SM เหมือนเดิม
ด้านความเคลื่อนไหวฝั่งพนักงานของ SM Entertainment ก็ได้มีการรวมตัวกันเป็นสภาพนักงานจำนวน 208 คน ได้ร่วมออกแถลงการณ์ว่าพวกเขาอยู่เคียงข้าง อีซองซู และ ทักยองจุน ในแผนการปฏิรูปโครงสร้าง บริษัทที่เรียกว่า SM 3.0 ซึ่งเป็นแผนพัฒนาจากค่ายเดียวเป็นการจับมือมีหลายค่ายหลายโปรดิวเซอร์ และขอประณาม การกระทำของอีซูมาน พร้อมกับกล่าวว่า อีซูมานได้ทอดทิ้ง SM และแฟนคลับของ SM ไปนานแล้ว และสภาพนักงานได้ก่อตั้งขึ้นมาจากพนักงานที่เคยถูกอีซูมานหลอกใช้มาตลอด พวกเขาจำเป็นจะต้องออกมาปกป้องบริษัทและหวังว่าจะพัฒนา SM ต่อไปในแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองไม่ถูกครอบงำโดยคนอื่น
ส่วนความเคลื่อนไหวของ HYBE ก็ได้ออกแถลงชี้แจงหลายครั้งแต่โดยรวมแล้วได้เรียกร้องให้ทาง SM จัดการแก้ปัญหาภายในให้เรียบร้อย และทาง HYBE เองก็กำลังดำเนินการแก้ปัญหาไปทีละอย่าง