TNN เชียงใหม่ล้ำ! มุ่งเป็นศูนย์กลางค้าออนไลน์ข้ามแดน ตอนที่ 1 ค้าออนไลน์ข้ามแดน "โอกาส" หรือ "ความเสี่ยง" ?

TNN

เศรษฐกิจ

เชียงใหม่ล้ำ! มุ่งเป็นศูนย์กลางค้าออนไลน์ข้ามแดน ตอนที่ 1 ค้าออนไลน์ข้ามแดน "โอกาส" หรือ "ความเสี่ยง" ?

เชียงใหม่ล้ำ!  มุ่งเป็นศูนย์กลางค้าออนไลน์ข้ามแดน    ตอนที่ 1 ค้าออนไลน์ข้ามแดน โอกาส หรือ ความเสี่ยง ?

“เชียงใหม่” เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยว ก่อนเกิดการระบาดของโควิด 19 ในปี 2560 มีนักเดินทางต่างชาติเข้ามายังเชียงใหม่ผ่านทางสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ถึง 2.3 ล้านคนต่อปี ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวและนักเดินทางจากจีน ถึง 1.42 ล้านคน อาหาร วัฒนธรรม ธรรมชาติ ค่าครองชีพ รวมถึงผู้คนในท้องถิ่น เป็นจุดเด่นที่ทำให้เชียงใหม่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักเดินทางได้เป็นจำนวนมาก ภาคบริการ เช่น ที่พัก ร้านอาหาร การเดินทาง ฯลฯ จึงเป็นแหล่งรายได้ของคนในพื้นที่เชียงใหม่กว่า ร้อยละ 70 การระบาดของโควิด – 19 จึงส่งผลลบต่อเชียงใหม่สูง เชียงใหม่จึงจำเป็นต้องปรับตัว และเสาะหาช่องทางเพิ่มเติมในการสร้างรายได้ในช่วงที่ไม่สามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวได้ เช่น ช่วงที่จบจากเทศกาล หรือ ฤดูการท่องเที่ยวลงแล้ว หรือวิกฤตอื่นๆ ในอนาคต ฯลฯ Cross Border E-Commerce หรือการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดนเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของเชียงใหม่ที่จะช่วยสร้างโอกาสการขายสินค้าและบริการให้กับธุรกิจขนาดใหญ่ไปจนถึง ร้านค้าเล็ก และคนในท้องถิ่น ไปยังปลายทางต่างประเทศผ่านช่องทางดิจิทัล และระบบการขนส่งทั้งทางบกและทางอากาศซึ่งเป็นจุดเด่นของเชียงใหม่ในเวลานี้

เชียงใหม่ล้ำ!  มุ่งเป็นศูนย์กลางค้าออนไลน์ข้ามแดน    

ตอนที่ 1 ค้าออนไลน์ข้ามแดน "โอกาส" หรือ "ความเสี่ยง" ?


รวบรวมข้อมูล แปล และเรียบเรียง 

โดย ธัญวรัตน์ ถาวรโชติวงศ์


การขายสินค้าออนไลน์ข้ามแดน เป็นโอกาสหรือความเสี่ยง 

การค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน  Cross Border E-Commerce หรือ CBEC ก็คือการขายสินค้าแบบส่งออกไปยังต่างประเทศ แต่ไม่มีพิธีการทางศุลกากรที่ซับซ้อนแบบการส่งออกปกติ และส่วนใหญ่เป็นการค้าขาย ของผู้ผลิต หรือร้านค้า กับลูกค้าที่อยู่ในต่างประเทศโดยตรง โดยอาศัย Platform Online เป็นตัวกลางในการซื้อ-ขาย แพล็ตฟอร์มที่เป็นที่รู้จักกันมาก เช่น Amazon และ Alibaba   การสั่งซื้อสินค้าไม่จำเป็นต้องซื้อเป็นจำนวนมากเหมือนการส่งออกปกติ สามารถซื้อรายชิ้น และสามารถจัดส่งสินค้าทางไปรษณีย์


การค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน จึงนับเป็นโอกาส เพราะทำให้สินค้าของเราเข้าถึงลูกค้าในต่างประเทศได้โดยตรง และมีอัตราภาษีที่ต่ำกว่าการนำเข้า-ส่งออกปกติ  และตลาดต่างประเทศที่ซื้อสินค้าและบริการออนไลน์จากผู้ค้าในไทยและอาเซียนอยู่ไม่ไกล

ศูนย์การพาณิชย์นานาชาติ หรือ (ITC) ซึ่งมีสำนักงานใน กรุง เจนีวา จัดทำงานวิจัยร่วมกับ เครือเว็บไซต์ค้าออนไลน์ยักษ์ใหญ่ อย่างอาลีบาบา และ มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง งานวิจัยนี้มีชื่อว่า RCEP and Cross-border E-commerce Opportunities for ASEAN Countries ซึ่งเผยแพร่เมื่อเดือน พฤศจิกายน ปี 2022 (2565) 


งานวิจัยนี้เผยว่า ตลาดการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดนที่ดีที่สุดสำหรับคนอาเซียน คือ ตลาดกลุ่มประเทศ RCEP  ซึ่งประกอบด้วย 10 ชาติอาเซียน และ ประเทศคู่เจรจา อย่าง นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และ รวมถึงจีน


โดยในปี 2565 กลุ่มประเทศ RCEP นี้ 

- มีประชากรกว่า 2,270 ล้านคน 

- มูลค่า GDP อยู่ที่ 26 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  หรือราว  962 ล้านล้านบาท 


ที่สำคัญการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดนในกลุ่มประเทศ RCEP นี้ มีขนาดคิดเป็นร้อยละ 53.3 ของการค้าออนไลน์โลก และกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว


มูลค่าการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดนของตลาด RCEP

-     ในปี 2020 (2563)  สูงถึง 285,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ   หรือราว   10.54 ล้านล้านบาท 

-    จากเดิมในปี 2016 (2559)  มีมูลค่า 86,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว  3.18  ล้านล้านบาท 

-    คิดเป็นอัตราเติบโตต่อปีถึงร้อยละ 34.8  


ในกลุ่มประเทศ RCEP ทั้งหมด จีนเป็นตลาดการค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุด และจีนมีขนาดตลาดการค้าออนไลน์ที่ใหญ่เป็นที่ 1 ของโลก ตั้งแต่ปี 2564

กรมการค้าต่างประเทศ แห่งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เผยแพร่ข้อมูลว่า โดยภาพรวมแล้วการค้าออนไลน์จีนเข้าถึงผู้ซื้อกว่า 710 ล้านคนทั่วโลก  และคาดการณ์ว่า ในปี 2567 นี้ จะสูงถึง 3.56 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ  หรือราว  131.7  ล้านล้านบาท  เฉพาะในส่วนการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน กระทรวงพาณิชย์จีนคาดการณ์ด้วยว่าในปีนี้ มูลค่าการนำเข้า-ส่งออกด้วยวิธีนี้ อาจสูงถึง 2.95 ล้านล้านหยวน ขณะที่ในปี 2566 มีมูลค่าสูงถึง 2.38 ล้านล้านหยวน หรือราว 12.25 ล้านล้านบาท  เติบโตเฉลี่ยร้อยละ 15.6  


เจาะตลาดค้าออนไลน์ข้ามพรมแดนจีน ไม่ง่าย

อย่างไรก็ตามสัดส่วนการนำเข้าและการส่งออกผ่านการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดนของจีนค่อนข้างแตกต่างกันมาก 


เราเห็นได้จากตัวเลขในปี 2565 กรมศุลกากรจีนเผยตัวเลขการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน  ว่ามีมูลค่ารวม 2.11 ล้านล้านหยวน  หรือราว  10.8 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้แบ่งเป็น

-    การส่งออก  1.55 ล้านล้านหยวน หรือ 7.936 ล้านล้านบาท 

-    ขณะที่การนำเข้าอยู่ที่ 560,000 ล้านหยวน หรือ 2.86 ล้านล้านบาท  


สัดส่วนที่ต่างกันมากนี้ทำให้เกิดคำถามว่า ประเทศอาเซียนที่รับสินค้าจีนมาจำหน่ายออนไลน์เป็นจำนวนมาก จะสามารถพลิกกลับมาขายสินค้าของตัวเอง และทวนกระแสเข้าไปขายในตลาดจีนได้จริงหรือ

MC Kincy & company ให้ความเห็นไว้ตั้งแต่ปี 2565 ว่าเป็นไปได้ แต่ยากเพราะตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น พ่อค้าแม่ค้าในแพล็ตฟอร์มออนไลน์พึ่งพาสินค้าจีนเป็นหลัก การพัฒนาทวนกระแส  ให้พึ่งพาสินค้าจีนน้อยลงและขายสินค้าอาเซียนให้มากขึ้นเป็นเรื่องลำบาก


อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนย้ายห่วงโซ่อุปทานการผลิตเข้ามายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะผลักดันให้เจ้าของสินค้าแสวงหาวิธีขยายตลาดทวนกระแสขึ้นไปค้าขายเข้าในตลาดที่มีมูลค่าใหญ่ขึ้น ซึ่ง MC Kincy & company  อาจจะหมายรวมถึงการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดนเข้าไปในจีนด้วย   โดยมีปัจจัยเสริมจากการที่ลูกค้าเปิดกว้างกว่าเดิม เปลี่ยนพฤติกรรมมาซื้อสินค้านานาชนิดผ่านช่องทางออนไลน์ และจ่ายเงินด้วยระบบดิจิทัล 


อย่างไรก็ตาม การค้าออนไลน์ คือ อนาคตของธุรกิจ 

อาลีบาบา และ พันธมิตรผู้จัดทำงานวิจัย RCEP and Cross-border E-commerce Opportunities for ASEAN Countries มองว่าการค้าออนไลน์เป็นโอกาสในการขายสินค้าไปยังตลาดที่กว้างขึ้น และสมควรที่จะส่งเสริมให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (MSMES) และธุรกิจขนาดย่อม (Micro SMES) มีโอกาสทำธุรกิจและเติบโตโดยใช้ช่องทางนี้ 


ปัจจัยหนึ่งอาจมาจาก สินค้าส่งออกปกติแตกต่างจากสินค้าส่งออกผ่านการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน


ข้อมูลจาก Global Industry Classification Standard (GICS)  พบว่าการส่งออกปกติ ส่วนมากเป็นสินค้าในกลุ่มพลังงาน วัตถุดิบ และสินค้าอุตสาหกรรมที่มีการผลิตจำนวนมาก  


ขณะที่การค้าออนไลน์ข้ามแดน เป็นสินค้าในชีวิตประจำวัน เช่น สินค้าปัจจัยสี่ (เช่น เครื่องดื่ม อาหาร เสื้อผ้า ของใช้ในบ้าน)  สินค้าฟุ่มเฟือย  และ สินค้าสุขภาพที่มักจะผลิตโดยธุรกิจขนาดกลาง ไปถึงขนาดย่อม และจากการสำรวจของผู้วิจัยพบว่าสินค้าจากอาเซียน เป็นสินค้าที่มีความต้องการสูงในตลาดค้าออนไลน์ข้ามพรมแดนโดยเฉพาะภายในกลุ่มประเทศ   RCEP  


และเมื่อมองไปยังจีนในปี 2564   สินค้าที่จีนนำเข้าจำนวนมากผ่านวิธีนี้ เป็นสินค้าที่อาเซียนส่งออก ทั้งในสินค้าหมวด บ้านและสวน  เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย  เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน   รถและจักรยานยนต์  ผลิตภัณฑ์ความงาม ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ และรวมไปถึง เฟอร์นิเจอร์


นอกจากนี้ ในปี 2564   ยังพบว่า 10 ประเทศแรกที่จีนนำเข้าสินค้าแบบการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน มี 2 ประเทศ มาจากอาเซียน คือ  เวียดนาม ในอันดับ ที่ 2  และ ไทย เป็นอันดับที่ 5


ข้อมูลทั้งหมดทำให้เราเห็นว่า สินค้าไทยเป็นที่ต้องการในตลาดค้าออนไลน์ข้ามพรมแดนของจีน  และดังนั้นเมื่อมองย้อนกลับมาที่เชียงใหม่ และพิจารณาเป็นรายหมวดสินค้าที่ชาวจีนต้องการซื้อผ่านช่องทางนี้พบว่า สินค้าหมวด บ้านและสวน  เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย  ผลิตภัณฑ์ความงามและดูแลสุขภาพ รวมไปถึง เฟอร์นิเจอร์ เป็นสินค้าที่มีการผลิตในเชียงใหม่ ดังนั้น สินค้าในเชียงใหม่จึงมีโอกาศเจาะตลาดค้าออนไลน์ในจีน



#เชียงใหม่ #Ecommerce #ค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน #CBEC #crossborderecommerce #จีน 

#โอกาส #ความเสี่ยง #RCEP #สินค้าตกแต่งบ้าน  #Alibaba  #MCKincy&company  #อาเซียน #เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย   #ผลิตภัณฑ์ความงาม #ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ #เฟอร์นิเจอร์ 


รวบรวมข้อมูล แปล และเรียบเรียง 

โดย ธัญวรัตน์ ถาวรโชติวงศ์


ข่าวแนะนำ