รู้ทันภัยจาก “ฟ้าผ่า” ขณะเกิดพายุฤดูร้อน
ากเกิดพายุฝนฟ้าคะนองขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งเพราะเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่า แต่หากเลี่ยงไม่ได้การอยู่ในท่าที่เหมาะสมก็สามารถลดความเสี่ยงจากการถูกฟ้าผ่าได้ซึ่งก็คือท่านั่งยอง ๆ เท้าชิดและมือปิดหู
สำหรับพายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ นอกจากจะทำให้เกิดฝนตกหนัก ลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกแล้ว บางครั้งก็เกิดปรากฏการณ์ฟ้าผ่าและฟ้าแลบขึ้นด้วย ซึ่งเมื่อเกิดพายุฝนฟ้าคะนองนั้น ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งเช่นบริเวณสนามกอล์ฟ สระน้ำ ทุ่งนาเป็นต้น เพราะเสี่ยงที่จะถูกฟ้าผ่าได้ แต่ในกรณีที่หลบไม่ทันหรือเลี่ยงไม่ได้จริงๆ สามารถลดความเสี่ยงจากอันตรายได้โดยการอยู่ในท่าทางที่เหมาะสม ท่าที่เหมาะสมคือ การนั่งยองๆ ก้มศีรษะเพื่อลดตัวให้ต่ำที่สุด เท้าควรชิดกันและเขย่งปลายเท้าเล็กน้อย เพื่อให้ร่างกายเลี่ยงการสัมผัสกับพื้นดินให้ได้มากที่สุด ก็จะช่วยลดความเสี่ยงกรณีที่กระแสไฟฟ้าไหลมาตามพื้น ส่วนมือปิดหูไว้เพื่อป้องกันเสียงดังจากฟ้าผ่า และท่าที่ควรหลีกเลี่ยงคือ ท่านอนราบกับพื้น เพราะเมื่อนอนราบกับพื้นนั้น จะทำให้ร่างกายมีจุดสัมผัสกับพื้นหลายจุด และถ้าหากฟ้าผ่าในบริเวณใกล้ๆ กระแสไฟฟ้าจะไหลมาตามพื้นและเข้าสู่ร่างกายของเราได้ในปริมาณมาก นับว่าอันตรายมากทีเดียว และวิธีที่จะสังเกตว่าเรากำลังเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่าหรือไม่นั้น ถ้าหากมีเมฆฝนฟ้าคะนองอยู่เหนือศีรษะแล้วเรารู้สึกว่าขนลุก หรือเส้นผมบนศีรษะยกตั้งขึ้น ก็แสดงว่ากำลังเสี่ยงเพราะเส้นขนและเส้นผมของเรานั้นกำลังถูกเหนี่ยวนำอย่างแรง หากเป็นเช่นนั้นควรรีบถอยออกมาจากบริเวณนั้นทันที หรือถ้าหากเห็นสายฟ้าแลบเป็นลักษณะแนวตั้งก็แปลว่าเมฆฝนและฟ้าแลบฟ้าผ่ากำลังตรงมาที่เราให้รีบหลบหรือหาที่ปลอดภัย แต่ถ้าแนวสายฟ้าแลบเป็นแนวนอนแสดงว่าเมฆฝนกำลังพัดไปที่อื่น แต่ไม่ควรนิ่งนอนใจเพราะลมพายุสามารถเปลี่ยนทิศทางได้เสมอ จึงควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งและหาที่หลบให้ปลอดภัยเช่นกัน
