TNN online นักวิทย์ฯเผยอันตรายของ PM2.5 เร่งภาวะตายคลอด-มะเร็งปอด

TNN ONLINE

Earth

นักวิทย์ฯเผยอันตรายของ PM2.5 เร่งภาวะตายคลอด-มะเร็งปอด

นักวิทย์ฯเผยอันตรายของ PM2.5 เร่งภาวะตายคลอด-มะเร็งปอด

มลพิษทางอากาศทำให้เกิด ภาวะทารกตายคลอด เกือบล้านคนต่อปีทั่วโลก สำหรับ ภาวะทารกตายคลอด (Stillbirth) คือทารกในครรภ์ที่เสียชีวิตในช่วงท้ายของการตั้งครรภ์

ช่วงฤดูหนาว อากาศนิ่ง ลมสงบ ปัญหาฝุ่น PM2.5 มักจะกลับมา ซึ่งปัญหามลพิษทางอากาศเป็นภัยเงียบที่อันตรายแม้กระทั่งต่อเด็กในครรภ์ มีผลการศึกษาพบว่า มลพิษทางอากาศทำให้เกิด ภาวะทารกตายคลอด เกือบล้านคนต่อปีทั่วโลก สำหรับ ภาวะทารกตายคลอด (Stillbirth) คือทารกในครรภ์ที่เสียชีวิตในช่วงท้ายของการตั้งครรภ์ หรือคลอดแล้วไม่มีอาการแสดงของการมีชีวิต อาจมาจากหลากหลายสาเหตุทั้งจากตัวทารก สุขภาพมารดา รวมถึงมลพิษทางอากาศด้วยค่ะ ผลการศึกษาพบว่า จาก 137 ประเทศทั่วโลก มีทารกกว่า 950,000 รายเสียชีวิตต่อปี ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับมลพิษทางอากาศ พบมากสุดในประเทศปากีสถาน อินเดีย ไนจีเรีย และจีนจึงมีคำเตือนให้ช่วยกันเร่งลดมลพิษในอากาศทั่วโลก สำนักงานวิจัยมะเร็งระหว่างประเทศ (IARC) ระบุว่า ฝุ่น PM2.5 เป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งสำหรับมนุษย์ เมื่อฝุ่น PM2.5 ลอยเข้าไปในหลอดลมจนถึงปอด จะเข้าไปโดยที่เราไม่รู้สึกตัว และป้องกันไม่ได้ เมื่อเข้าไปในปอดแล้ว ก็จะเกิดการอักเสบ มีการกลายพันธุ์ของ DNA และ RNA ซึ่งเป็นสารพันธุกรรมในร่างกาย หากร่างกายได้รับสาร PM2.5 ในปริมาณมากและยาวนานเกินไปกลายเป็นมะเร็งปอดได้ ส่วนระดับความเข้มข้นของ PM2.5 ขึ้นกับพื้นที่ หากมีลักษณะเป็นแอ่ง ความกดอากาศสูงและอากาศเย็น มักจะมีความเข้มข้นสูง โดยมีค่าสูงสุด ช่วงเช้ามืดถึงประมาณ 10 นาฬิกา และค่อยๆจางลงในช่วงบ่าย ดังนั้น ช่วงไหนฝุ่นเยอะ ควรสวมหน้ากากสำหรับป้องกันฝุ่น PM2.5 หากเป็นไปได้ควรงดออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง และ หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบปรึกษาแพทย์ทันทีค่ะ

ข่าวแนะนำ