สรุปสภาพอากาศปี 2565 ฝนมากผิดปกติกลางปี

ฤดูร้อนเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 65 ช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์

ฤดูฝนเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 65 อยู่ในเกณฑ์ปกติ

ฤดูหนาวเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 65 ช้ากว่าปกติประมาณ 1 สัปดาห์

 

เหตุการณ์สภาพอากาศสำคัญที่เกิดขึ้นในปีนี้

• เดือนเมษายนปี 65 เดือนที่ขึ้นชื่อว่าร้อนที่สุด แต่กลับมีสภาพอากาศหนาวเย็น สร้างความประหลาดใจให้กับคนไทยไม่น้อย โดยเมื่อวันที่ 1 เม.ย. อากาศร้อนตามปกติของฤดูร้อน แต่วันที่ 2 เม.ย. อากาศเย็นสบายตั้งแต่เช้าจนกระทั่งเวลาเย็น ตกค่ำลมพัดแรง และเช้าของวันที่ 3 เม.ย. อากาศเย็นเหมือนช่วงฤดูหนาว ลมพัดแรงตลอดทั้งวัน กรมอุตุนิยมวิทยาชี้แจงว่า ความแปรปรวนของสภาพอากาศในช่วงวันที่ 1-3 เม.ย. 65 เป็นผลมาจากอิทธิพลของความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยอยู่ในช่วงฤดูร้อน 

 

• เดือนกันยายน มีพายุ 1 ลูกเข้าประเทศไทย นั่นคือ พายุ “โนรู” พายุลูกนี้ก่อตัวขึ้นทางด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 21 ก.ย. โดยทวีกำลังแรงเป็นระดับไต้ฝุ่น และเคลื่อนขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ตอนเหนือ จากนั้นก็อ่อนกำลังลงและเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ในช่วงวันที่ 25-26 ก.ย. หลังจากนั้นเคลื่อนมาขึ้นฝั่งบริเวณเวียดนาม และเคลื่อนผ่านประเทศลาวตอนล่างเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณ อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานีในระดับ “โซนร้อน” ในวันที่ 28 ก.ย. กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเตือนภัยทั่วทุกภาคระวังฝนตกหนักช่วงวันที่ 27-30 ก.ย. โดยเฉพาะบริเวณภาคอีสานที่จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก
• เดือนกันยายน ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนตกหนักถึงหนักมากเกือบตลอดทั้งเดือน ปริมาณฝนตกนับตั้งแต่วันที่ 1-7 ก.ย. หรือสัปดาห์แรกของเดือน ก.ย. ปริมาณฝนสะสมสูงถึง 156.5 มิลลิเมตร คิดเป็น 54.2% ของปริมาณฝนตกทั้งเดือน ก.ย. ในปี 2564 ในเขตกรุงเทพฯ และหากเทียบกับช่วงค่าเฉลี่ยฝนตกในรอบ 30 ปี ถือว่าสูงกว่าถึง 142.3%   เฉพาะเดือนก.ย. 65 เดือนเดียวมีปริมาณน้ำฝน 801.6 มิลลิเมตรของค่าเฉลี่ย 30 ปีคิดเป็น 148.5% โดยตลอดทั้งเดือนมีฝนตกทั้งหมด 38 ครั้งใน 28 วัน เป็นฝนที่ก่อตัวในกรุงเทพฯ 63.79% ก่อตัวนอกพื้นที่และมาตกในกรุงเทพ ฯ 36.21% ปรากฏการณ์ฝนตกหนักที่เกิดขึ้นในปีนี้ สืบเนื่องมาจาก ปรากฏการณ์ลานีญาที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาสองปีแล้ว ทำให้ฝนมาไวและตกหนักยิ่งขึ้นนอกจากฝนที่มาจากด้านนอกแล้วยังเป็นฝนที่ก่อตัวขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครและภาคกลางซึ่งตกแช่เป็นเวลานานด้วย

นอกจากนี้สภาพอากาศในแต่ละเดือนของปีนี้ เป็นอย่างไร กรมอุตุนิยมวิทยาสรุปไว้ดังนี้

 

เดือนมกราคม

ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นในช่วงกลางเดือนและปลายเดือน อุณหภูมิเฉลี่ยเดือนนี้สูงกว่าค่าปกติในเกือบทุกภาค โดยเฉพาะภาคเหนือ อุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่าค่าปกติ 2.0 องศา ขณะที่ปริมาณฝนรวมตลอดเดือนมีค่าต่ำกว่าปกติ เว้นแต่เพียงภาคตะวันออกที่มีปริมาณฝนรวมเดือนนี้สูงกว่าค่าปกติ สำหรับภาคใต้มีฝนตกหนาแน่นเกือบตลอดเดือน โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีรายงานฝนหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ในช่วงกลางเดือนและปลายเดือน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในบางพื้นที่

 

 

เดือนกุมภาพันธ์

ประเทศไทยมีปริมาณฝนรวมเฉลี่ย 102.6 มิลลิเมตรสูงกว่าค่าปกติ 82.3 มิลลิเมตร และมีอุณหภูมิเฉลี่ย 26.1 องศาเซลเซียส ต่ำกว่าค่าปกติ 0.3 องศาเซลเซียส เดือนนี้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะช่วงปลายเดือน ส่งผลให้ในเดือนนี้มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่าค่าปกติ นอกจากนี้มีรายงานฝนตกในระยะต้นและกลางเดือน จากอิทธิพลของคลื่นกระแสลมตะวันตกที่เคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมีลมใต้และ ลมตะวันตกเฉียงใต้ นอกจากนี้มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณหัวเกาะสุมาตราในช่วงวันที่ 15-17 กับมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมประเทศมาเลเซียในช่วงวันที่ 24-26 ทำให้ภาคใต้มีฝนตกตลอดเดือนและมีฝนหนักในช่วงครึ่งหลังของเดือน 

 

 

 

เดือนมีนาคม

ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีอากาศหนาวบางพื้นที่ในช่วงต้นเดือน ส่วนในตอนกลางวันมีอุณหภูมิสูงขึ้นมากและมีอากาศร้อนต่อเนื่องชัดเจนตั้งแต่วันที่ 2 เป็นต้นไปซึ่งถือว่าเป็นวันเริ่มต้นฤดูร้อนของประเทศไทยในปีนี้ ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนต่อเนื่องเป็นระยะๆ และร้อนจัดในบางพื้นที่ของภาคเหนือ สำหรับฝนพบว่า มีฝนมากในช่วงครึ่งหลังของเดือน และมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในหลายพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีฝนส่วนมากในช่วงต้นเดือนและกลางเดือน โดยปริมาณฝนในรวมเดือนนี้สูงกว่าค่าปกติในทุกภาคส่งผลให้ปริมาณฝนรวมทั้งประเทศมีค่า 96.8 มิลลิเมตรและสูงกว่าค่าปกติร้อยละ 73 ส่วนอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่าค่าปกติเล็กน้อยเกือบทุกภาค

 

 

 

เดือนเมษายน-พฤษภาคม

เดือนเมษายนและพฤษภาคมซึ่งอยู่ในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย ปีนี้มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่าค่าปกติในทุกภาค โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่าค่าปกติ 1.6 องศาเซลเซียส โดยในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นทั่วไปกับมีอากาศหนาวบางพื้นที่ในบางวัน ส่วนบริเวณอื่นๆของประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นหลายพื้นที่ เนื่องจากอิทธิพลของบริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงที่แผ่ลงมาปกคลุม ประกอบกับลมตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมบริเวณภาคเหนือในช่วงวันที่ 6-8 พ.ค. ส่วนภาคใต้มีฝนตกเกือบตลอดเดือนพ.ค. กับมีฝนตกหนาแน่นกับมีรายงานน้ำท่วมฉับพลันหลายพื้นที่ โดยปริมาณฝนในรวมเดือนนี้สูงกว่าค่าปกติในเกือบทุกภาคและปริมาณฝนรวมทั้งประเทศสูงกว่าค่าปกติร้อยละ 17 โดยกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศให้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนในวันที่ 13 พ.ค.

 

 

เดือนมิถุนายน

ประเทศไทยมีฝนตกเกือบตลอดเดือนแต่การกระจายของฝนไม่สม่ำเสมอ บางพื้นที่มีฝนทิ้งช่วง ได้แก่ บริเวณจังหวัดอุตรดิตถ์ ตาก อุบลราชธานี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร ทำให้ปริมาณฝนรวมต่ำกว่าค่าปกติในเกือบทุกภาค ปริมาณฝนรวมเฉลี่ยทั้งประเทศต่ำกว่าค่าปกติ ร้อยละ 23 อย่างไรก็ตามในช่วงกลางและปลายเดือนบางพื้นที่มีฝนตกหนาแน่นและมีรายงานน้ำท่วมฉับพลันบางพื้นที่ของภาคเหนือและภาคตะวันออกด้วย

 

 

 

เดือนกรกฎาคม

ประเทศไทยตอนบนมีฝนหนักถึงหนักมากบางพื้นที่เป็นระยะๆ เกือบตลอดเดือนและมีรายงานน้ำท่วมในบางพื้นที่ ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนชุกหนาแน่น เดือนนี้ปริมาณฝนรวมตลอดเดือนสูงกว่าค่าปกติในทุกภาค และปริมาณฝนรวมเฉลี่ยทั้งประเทศสูงกว่าค่าปกติร้อยละ 20 และบางสถานีมีปริมาณฝนมากที่สุดใน 1 วันและปริมาณฝนรวมตลอดเดือนสูงกว่าสถิติเดิมที่เคยตรวจวัดได้ของเดือนกรกฎาคม อย่างไรก็ตามมีพื้นที่ทางตะวันตกของประเทศไทยตอนบนบริเวณจังหวัดตาก กาญจนบุรี และบริเวณจังหวัดนครพนม สกลนคร และกบินทร์บุรีมีปริมาณฝนต่ำกว่าค่าปกติชัดเจน

เดือนสิงหาคม

ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ภาคเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน โดยได้เลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเป็นช่วงๆ ประกอบกับมรสุม ตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกําลังค่อนข้างแรงเกือบตลอดเดือน อีกทั้งยังได้รับอิทธิพลจากพายุหมุนเขตร้อนที่เคลื่อนเข้ามาใกล้จํานวน 2 ลูก คือ พายุ โซนร้อน “มู่หลาน (MULAN, 2207)” ที่เคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามในวันที่ 11 พร้อมทั้งอ่อนกําลังลงตามลําดับเป็นหย่อมความกดอากาศต่ํากําลังแรงปกคลุมตอนบนของภาคเหนือและประเทศเมียนมาในวันต่อมา และพายุโซนร้อน “หมาอ๊อน (MA ON, 2209)” ที่เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองเหมาหมิง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เข้ามาสลายตัวบริเวณประเทศลาวตอนบนในวันที่ 26 ทําให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนาแน่นกับน้ําท่วมหลายพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีฝนชุกหนาแน่น ปริมาณฝนรวมในเดือนนี้สูงกว่าค่าปกติ เกือบทุกภาค โดยปริมาณฝนรวมเฉลี่ยทั่วประเทศเดือนนี้ 275.1 มิลลิเมตรสูงกว่าค่าปกติร้อยละ 12 ส่วนอุณหภูมิเฉลี่ยของประเทศไทยในดือนนี้สูงกว่าค่าปกติเล็กน้อย

 

เดือนกันยายน

มีฝนตกหนาแน่นเกือบตลอดเดือน นอกจากนี้ยังได้รับอิทธิพลจากไต้ฝุ่น “โนรู (NORU, (2216)” ที่เคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันที่ 28 แล้วอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนก่อนเคลื่อนผ่านประเทศลาว ซึ่งต่อมาพายุนี้ได้เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณอำเภอโขงเจียมอุบลราชธานี เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 28 แล้วอ่อนกำลงเป็นพายุดีเปรสชัน จากนั้นได้ผ่านจังหวัดอำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ขอนแก่น และอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณจังหวัดชัยภูมิ เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 29 ก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบนในวันต่อมา ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทยมีฝนตกหนาแน่น โดยเฉพาะในช่วงต้นเดือนและปลายเดือน มีรายงานน้ำท่วม และดินถล่มในบางพื้นที่ โดยเดือนนี้มีปริมาณฝนรวมตลอดเดือนสูงกว่าค่าปกติเกือบทุกภาค บางพื้นที่มีปริมาณฝนมากที่สุดใน 1 วันและปริมาณฝนรวมตลอดเดือนสูงกว่าค่าสถิติเดิมที่เคยตรวจวัดได้ ปริมาณฝนรวมเฉลี่ยทั้งประเทศสูงกว่าค่าปกติร้อยละ 32 

เดือนตุลาคม

ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบนในระยะต้นเดือน จากนั้นได้เลื่อนลงไปพาดผ่านภาคใต้ โดยพาดเข้าสู่พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางในช่วงกลางเดือน ซึ่งต่อมาพายุดีเปรสชันดังกล่าวได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “เซินกา (SONCA, 2219)” เคลื่อนขึ้นฝั่งที่เมืองกว๋างหงาย ประเทศเวียดนามในวันที่ 15 ก่อนเคลื่อนเข้ามาสลายตัวบริเวณประเทศลาว และพายุโซนร้อน “เนสาท (NESAT, 2220)” ที่เคลื่อนผ่านตอนใต้ของเกาะไหหลำ ประเทศจีนเข้ามาสลายตัวบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 20 ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนาแน่นเป็นช่วงๆ โดยเฉพาะในช่วงต้นเดือนมีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีรายงานน้ำท่วมหลายพื้นที่ สำหรับภาคใต้มีฝนตกหนาแน่นเกือบตลอดเดือน โดยปริมาณฝนรวมทั้งประเทศในเดือนนี้สูงกว่าค่าปกติร้อยละ 17 นอกจากนี้เริ่มมีลมจากประเทศจีนได้แผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนตั้งแต่กลางเดือน อีกทั้งลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยเปลี่ยนเป็นลมตะวันออกและมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือในระยะปลายเดือน ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนและอุณหภูมิลดลงโดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นเกือบทั่วไป โดยกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศให้ไทยเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 ต.ค. 

เดือนพฤศจิกายน

ช่วงต้นเดือนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออากาศเย็นถึงหนาวในบางพื้นที่ ส่วนภาคอื่นๆ มีอากาศเย็น สำหรับฝน มีเป็นระยะๆ ในช่วงกลางเดือนและปลายเดือน จากอิทธิพลของลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุม พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทยตอนบนมีปริมาณฝนรวมสูงกว่าค่าปกติ โดยเฉพาะภาคกลางและภาคตะวันออก มีฝนสูงกว่าค่าปกติ สำหรับภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่นเกือบตลอดเดือนกับมีรายงานน้ำท่วมบางพื้นที่

 

เดือนธันวาคม

ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นมากขึ้น และมีหมอกหนาหลายพื้นที่ในบางช่วง สำหรับบริเวณยอดดอย ยอดภู รวมทั้งเทือกเขาจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ในบางช่วง เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนเป็นระยะๆ โดยมีกำลังค่อนข้างแรงเป็นส่วนใหญ่ ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น โดยเฉพาะฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป
 กับมีฝนหนักถึงหนักมากในบางแห่ง เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากรวมทั้งน้ำล้นตลิ่งในบางแห่ง คลื่นลมในทะเลอ่าวไทยจะมีกำลังแรง บางช่วงมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง1 - 2 เมตร เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้
 มีกำลังแรงเป็นระยะๆ ประกอบกับในบางช่วงมีร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนล่าง