TNN online ภาวะโลกร้อนกระทบคุณภาพและรสชาติ “ไวน์”

TNN ONLINE

Earth

ภาวะโลกร้อนกระทบคุณภาพและรสชาติ “ไวน์”

ภาวะโลกร้อนกระทบคุณภาพและรสชาติ “ไวน์”

“อุณหภูมิที่สูงขึ้นจะทำให้ องุ่นสุกเร็วและผลิตน้ำตาลได้มาก เมื่อนำมาหมักบ่ม น้ำตาลจำนวนมากจะแปรสภาพกลายเป็นแอลกอฮอล์ นอกจากนี้องุ่นที่สุกเร็วเกินไป จะทำให้องุ่นไม่สามารถผลิตสารแทนนินซึ่งเป็นที่มาของรสฝาดในไวน์ได้ทัน ภาวะโลกร้อนจึงส่งผลต่อรสชาติไวน์”

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลทำให้อากาศแปรปรวน กระทบต่อพื้นที่ทางการเกษตรทั่วโลก หนึ่งในนั้นคือ พื้นที่การปลูกองุ่นและผลิตไวน์ ซึ่งทางสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐคาดการณ์ว่า ภายในอีก 28 ปีข้างหน้า พื้นที่ผลิตไวน์ทั่วโลกจะได้รับผลกระทบ ส่งผลให้คุณภาพและรสชาติของไวน์เปลี่ยนไปด้วย สำหรับสภาพอากาศมีผลต่อการผลิตและรสชาติไวน์อย่างมาก ตั้งเเต่ช่วงเวลาที่องุ่นเริ่มออกผลไปถึงตอนเก็บเกี่ยว เพราะอุณหภูมิที่สูงขึ้นจะทำให้ องุ่นยิ่งสุกเร็วและผลิตน้ำตาลได้มาก และเมื่อนำมาหมักบ่ม น้ำตาลจำนวนมากก็จะแปรสภาพกลายเป็นแอลกอฮอล์ นอกจากนี้องุ่นที่สุกเร็วเกินไป จะทำให้องุ่นไม่สามารถผลิตสารแทนนินซึ่งเป็นที่มาของรสฝาดในไวน์ได้ทัน ภาวะโลกร้อนจึงส่งผลต่อรสชาติไวน์ ซึ่งไวน์รสชาติอร่อยๆนั้นส่วนใหญ่ก็มาจากภูมิประเทศที่สภาพอากาศคงทื่ ไม่แปรปรวน อากาศไม่ร้อนจัดหรือหนาวจัดมากเกินไป แหล่งผลิตไวน์ยอดนิยม เช่นที่ แคว้นทัสคานีที่อยู่ตอนกลางของประเทศอิตาลี ปกติแล้วอุณหภูมิเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม สูงสุดจะอยู่ 31-33 องศา แต่ปีนี้อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 39 องศาจนถึงต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน เช่นเดียวกันกับที่แคว้นเบอร์กันดีของฝรั่งเศส อุณหภูมิสูงสุดฤดูร้อนเฉลี่ยอยู่ที่ 25 องศาแต่คลื่นความร้อนที่ปกคลุมปีนี้ทำให้อุณหภูมิพุ่งสูงไปถึง 33 องศา ส่วนที่เมืองนาปาในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ อุณหภูมิเฉลี่ยช่วงสิงหาคมอยู่ที่ 28 องศาแต่ปีนี้ก็สูงสุดที่ 31 องศา ผู้เชี่ยวชาญเตือนภาวะโลกร้อนที่ทำให้อุณหภูมิของเมืองต่างๆทั่วโลกสูงขึ้นต่อเนื่อง จะส่งผลกระทบต่อรสชาติไวน์และพื้นที่ปลูกองุ่นในอนาคตอย่างแน่นอน ไม่เพียงแต่พื้นที่ผลิตไวน์เท่านั้น พื้นที่ทางการเกษตรมากมายทั่วทุกมุมโลก ก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน

ข่าวแนะนำ