รวบแล้ว! จ.ส.อ.กราดยิง ในวิทยาลัยการทัพบก เสียชีวิต 2 เจ็บ 1

เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว "จ.ส.อ.ยงยุทธ" เสมียน วทบ. ผู้ก่อเหตุกราดยิงเพื่อนร่วมงานในวิทยาลัยการทัพบก ถนนเทอดดำริ ได้แล้ว โดยมีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 1 ราย 

วันนี้ (14 ก.ย.65) เมื่อเวลา 09.00 น. มีรายงานว่า ศูนย์วิทยุผ่านฟ้า รับแจ้งเหตุะเลาะวิวาทมีผู้บาดเสียชีวิตภายในกรมยุทธศึกษาทหารบก ถนนเทอดดำริ แขวงถนนนครชัยศรี เขตดุสิต กทม. 

ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุ ได้ใช้อาวุธปืนยิงเพื่อนร่วมงาน ใน กอง ธก.วทบ. เมื่อเวลา 08.45 น. ภายในตึกกรมยุทธศึกษา ทหารบก วิทยาลัยการทัพบก ถนนเทอดดำริ แขวงนครไชยศรี เขตดุสิต หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมตึก เพื่อป้องกันการหลบหนี กระทั่งล่าสุดผู้ก่อเหตุยอมมอบตัว

เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ได้แก่ จ.ส.อ.นพรัตน์ อินทสุนทร เสมียน วทบ. และ จ.ส.อ.ประการ สินส่ง เสมียน วทบ. และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย คือ จ.ส.อ.ยงยุทธ์ ปัญญานุวัฒน์ เสมียน วทบ.

ผู้ก่อเหตุทราบชื่อว่า จ.ส.อ.ยงยุทธ อายุ 58 ปี เป็น เสมียน วทบ. เคยประสบอุบัติเหตุมาก่อน และรักษาตัวแล้ว คาดมีความเครียดจึงกราดยิง ประกาศจะยิงให้ครบ 10 คน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดเจ้าหน้าที่จากหน่วยปฏิบัติการพิเศษเข้าไปควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งล่าสุด สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเรียนชี้แจงถึงความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ในพื้นที่ สน.ดุสิต โดยระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันนี้ (14ก.ย.65) เวลาประมาณ 09.30 น. พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นภายใน วิทยาลัยการทัพบก กรมยุทธศึกษาทหารบก 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าทำการระงับเหตุ โดยต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์และควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้และจะดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย 

หลังจากนี้พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุ รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง สอบปากคำพยาน รวมถึงได้ร่วมกับแพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการตายประกอบสำนวนการสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับการปฎิบัติของเจ้าที่ตำรวจ ที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยให้ดำเนินการตามหลักยุทธวิธีคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนเป็นสำคัญ

รวมถึงให้รวบรวมพยานหลักฐานและสอบสวนอย่างตรงไปตรงไปมา ด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน 

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว โดยอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนกฎหมาย ขอให้ประชาชนในพื้นที่อย่าตื่นตระหนก อีกทั้งเพื่อป้องกันให้สังคมเกิดความสับสนและเสียรูปคดี จึงขอความร่วมมือติดตามข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น.

ภาพจาก ผู้สื่อข่าว TNN