(คลิป) คาดทองทะลุ 35,000 หาก “รัสเซีย - ยูเครน” บานปลาย

สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเมษายน ดีดตัวขึ้น 73.20 ดอลลาร์ หรือ  ร้อยละ 3.66 สู่ระดับ 2,069.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนกองทุนทองคำเอสพีดีอาร์ ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เพิ่มการถือครองทอง ร้อยละ 0.8 สู่ระดับ 1,062.70 ตัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 โดยนักวิเคราะห์คาดว่าราคาทองจะยังคงพุ่งขึ้นต่อไป หากสถานการณ์ในยูเครนยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยราคาทองมีแนวโน้มขึ้นทดสอบระดับ 2,100 ดอลลาร์ และจะทำสถิติสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่

ส่วนสถานการณ์ราคาทองในประเทศ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก กล่าวว่า ปีนี้ราคาทองแท่งในประเทศจะสูงกว่า ตอนที่ราคาทองโลกทำสถิติสูงสุดครั้งก่อน เนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าอยู่ที่ระดับ 33.14 บาทต่อดอลลาร์ ส่งผลให้ปัจจุบันราคาทองแท่งในประเทศอยู่ที่ราว 31,000 บาท

ด้าน นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ตั้งแต่เริ่มเกิดความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน จะเห็นคนทยอยนำทองคำออกมาขายกันมากขึ้น โดยนับตั้งแต่ตรุษจีนเป็นต้นมา ราคาทองคำในประเทศปรับขึ้นแล้วกว่า 2,300 บาท ทำให้มีคนมารอคิวขายทองมากขึ้น แต่ก็แถวไม่ยาวเหมือนรอบก่อนที่ทองทำราคาสูงสุด ช่วงปี 2563 อย่างไรก็ตาม ถ้าความขัดแย้งรุนแรงขึ้นมา ราคาทองก็อาจจะขึ้นอีก ยิ่งถ้าบานปลายก็คงขึ้นไปได้อีกมาก แต่ถ้ามีการเจรจายุติกันได้ราคาทองก็คงจะตกลงมา สถานการณ์แบบนี้วิเคราะห์ยาก ซึ่งถ้าถึงขนาดบานปลายราคาทองก็อาจจะไปถึง 35,000 บาทก็ได้

ส่วนราคาทองคำในประเทศ ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ล่าสุดเมื่อวานนี้(8 มี.ค.) มีการปรับราคา 7 ครั้ง โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 200 บาท ส่งผลให้ทองคำแท่ง ราคารับซื้อ อยู่ที่บาทละ 31,000 บาท ขายออก บาทละ 31,100 บาท ส่วนทองรูปพรรณ ราคารับซื้อ อยู่ที่บาทละ 30,441 บาท 28 สตางค์ ขายออก บาทละ 31,600 บาท