TNN เปิดประวัติ "หลี่ เค่อเฉียง" อดีตนายกฯจีนผู้จากไปด้วยวัยเพียง 68 ปี

TNN

World

เปิดประวัติ "หลี่ เค่อเฉียง" อดีตนายกฯจีนผู้จากไปด้วยวัยเพียง 68 ปี

เปิดประวัติ หลี่ เค่อเฉียง อดีตนายกฯจีนผู้จากไปด้วยวัยเพียง 68 ปี

เปิดประวัติ "หลี่ เค่อเฉียง" อดีตนายกฯจีนผู้จากไปด้วยวัยเพียง 68 ปี

"หลี่ เค่อเฉียง" อดีตนายกรัฐมนตรีของจีน ถึงแก่อสัญกรรมจากภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน ในวัย 68 ปี


สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายหลี่ เค่อเฉียง อดีตนายกรัฐมนตรีของจีน ได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้วด้วยวัย 68 ปี เนื่องจากภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน เมื่อเวลา 00.01 น.ในวันนี้ (27 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากที่แพทย์ได้พยายามทุกวิถีทางที่จะยื้อชีวิต แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ


นายหลี่ เค่อเฉียง อดีตนายกรัฐมนตรีของจีนได้ถึงแก่อสัญกรรมด้วยวัย 68 ปี โดยสำนักข่าวซินหัวซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลจีนรายงานว่า นายหลี่ซึ่งพำนักอยู่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ได้เกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลันและถึงแก่อสัญกรรมเมื่อเวลา 00.10 น.ในวันนี้ (27 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากที่แพทย์ได้พยายามทุกวิถีทางที่จะยื้อชีวิต แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ


นายหลี่สิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหมายความว่าเขาได้ถึงแก่อสัญกรรมในเวลาไม่ถึง 1 ปีหลังจากสิ้นสุดการทำหน้าที่ โดยข่าวดังกล่าวได้สร้างความตกใจและเสียใจให้กับประชาชนชาวจีน เนื่องจากนายหลี่เป็นหนึ่งในนายกรัฐมนตรีที่สร้างผลงานมากมายให้กับประเทศ โดยเฉพาะความมุ่งมั่นในการผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตตามเป้าหมายที่ระดับ 5%


สำนักข่าวซีเอ็นบีซีได้รวบรวมประวัติและผลงานโดยย่อของนายหลี่ไว้ดังนี้ว่า นายหลี่ได้รับการยอมรับในฐานะผู้ที่มีความมุ่งมั่นในการปฏิรูปเศรษฐกิจ แต่การที่เขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายหู จิ่นเทา อดีตประธานาธิบดีจีนนั้น ทำให้บางครั้งเขามักจะมีทัศนะคติที่ไม่ตรงกับนายสี จิ้นผิง ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจากนายหู จิ่นเทา


ในขณะที่นายหลี่สิ้นสุดการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีแล้วนั้น นายสี จิ้นผิง กลับได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนติดต่อกัน 3 สมัยอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในประวัติศาสตร์จีน และได้แต่งตั้งนายหลี่ เฉียง คนสนิทให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจีนคนใหม่ในปีนี้


ในปี 2020 นายหลี่ เค่อเฉียงได้สร้างปรากฎการณ์ด้วยการกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ประชาชนกว่า 600 ล้านคนในประเทศจีนยังคงมีรายได้ต่อเดือนเพียง 1,000 หยวน (137 ดอลลาร์) ซึ่งเงินจำนวนนี้ไม่พอแม้แต่จะเช่าห้องพักขนาดกลางในเมืองใดเมืองหนึ่งของจีน


ความมุ่งมั่นในการบริหารประเทศของนายหลี่ได้นำไปสู่การสร้างดัชนีอย่างไม่เป็นทางการที่ชื่อว่า "หลี่ เค่อเฉียง อินเด็กซ์ (Li Keqiang Index)" ซึ่งเป็นดัชนีที่ใช้ปริมาณการใช้ไฟฟ้า, การขนส่งสินค้าทางรถไฟ และการปล่อยกู้ของภาคธนาคาร เป็นมาตรวัดคุณภาพเศรษฐกิจ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตัวเลขเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการของจีนถูกตั้งข้อสงสัยในเรื่องของความแม่นยำ


ในระหว่างการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายหลี่ได้ผลักดันความร่วมมือด้านการค้าระหว่างจีนและประเทศอื่น ๆ รวมทั้งการยกเลิกข้อจำกัดเกี่ยวกับการไหลเวียนของประชาชนและสินค้าภายในประเทศจีน นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ริเริ่มแคมเปญการสร้างผู้ประกอบการและนวัตกรรมครั้งใหญ่


ในปี 2015 นายหลี่ได้ใช้เวทีในการแถลงรายงานการดำเนินงานของรัฐบาลด้วยการเปิดตัวยุทธศาสตร์ "Made in China 2025" ซึ่งเป็นความพยายายามที่จะสร้างขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีให้กับจีน โดยยุทธศาสตร์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากสหรัฐและยุโรปอย่างกว้างขวาง


ทั้งนี้ นายหลี่เกิดที่มณฑลอันฮุยในเดือนก.ค. 1955 เขาสำเร็จการศึกษาด้านกฎหมายและเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง และได้รับปริญญาเอกสาขาเศรษฐศาสตร์ โดยนายหลี่ได้เข้าเป็นกรรมาธิการถาวรของคณะกรรมการกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (โปลิตบูโร) ในปี 2007

ข่าวแนะนำ