TNN online เหตุใดจีนไม่พอใจ “แมคคาร์ธี” และ “ไช่ อิงเหวิน” พบกัน

TNN ONLINE

World

เหตุใดจีนไม่พอใจ “แมคคาร์ธี” และ “ไช่ อิงเหวิน” พบกัน

เหตุใดจีนไม่พอใจ “แมคคาร์ธี” และ “ไช่ อิงเหวิน” พบกัน

จีนออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรง ต่อการพบกันของประธานสภาผู้แทนสหรัฐฯ กับผู้นำไต้หวัน ระบุ เป็นการยั่วยุจีนอีกครั้งหนึ่ง พร้อมเตือนว่า จีนจะตอบโต้อย่างเด็ดขาด






จีนประณามการพบกันของแมคคาร์ธี-ไช่


กระทรวงต่างประเทศจีนแถลงในวันนี้ (6 เมษายน) ว่า จีนขอคัดค้านและประณามอย่างรุนแรง ต่อการพบกันระหว่าง เควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนสหรัฐฯ กับประธานาธิบดี ไช่ อิง-เหวินของไต้หวันเมื่อวานนี้ (5 เมษายน) ที่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ และจีนจะใช้มาตรการที่เด็ดขาด ตอบโต้การกระทำผิดที่ร้ายแรงดังกล่าว เพื่อปกป้องอธิปไตยแห่งชาติและบูรณภาพดินแดนของจีน


โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนระบุว่า การพบกันดังกล่าว เป็นการละเมิดอย่างร้ายแรงต่อหลักการ “จีนเดียว” และบทบัญญัติในคำประกาศร่วมจีน-สหรัฐฯ 3 ฉบับ ทั้งยังฝ่าฝืนละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพดินแดนของจีน ระบุว่า คำถามเกี่ยวกับไต้หวัน เป็นประเด็นหลักแห่งผลประโยชน์หลักของจีน และเป็นเส้นแดงเส้นแรก ที่จะต้องไม่ถูกก้าวข้ามในความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ


กระทรวงต่างประเทศจีนระบุต่อไปว่า ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา สหรัฐฯ ไม่สนใจการประท้วงอย่างจริงจังและคำเตือนซ้ำ ๆ ของจีน แต่กลับจงใจไฟเขียวให้ไช่ อิง-เหวิน ซึ่งเป็นผู้นำระดับภูมิภาคไต้หวันของจีน แวะเปลี่ยนเครื่องที่สหรัฐฯ และเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนสหรัฐฯ ผู้นำหมายเลข 3 ของรัฐบาลสหรัฐฯ ยังพบกับไช่ด้วย 


ส่วนสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ อื่น ๆ ก็ติดต่อสื่อสารกับไช่ เป็นการมอบเวทีให้แก่ไช่ ในการกล่าวถ้อยคำแบ่งแยกดินแดนเพื่อ “ความเป็นอิสระของไต้หวัน” โดยใช้การ “เปลี่ยนเครื่อง” ที่สหรัฐฯ มาบังหน้า


กระทรวงกลาโหมของจีน ออกแถลงการณ์อีกฉบับ ประณามการพบกันของแมคคาร์ธีและไช่ เช่นกัน และย้ำว่า กองทัพปลดแอกประชาชนจีน หรือกองทัพจีน จะปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพดินแดนของจีนอย่างเด็ดขาด รวมถึงปกปักรักษาสันติภาพและเสถียรภาพระหว่าง 2 ฝั่งของช่องแคบไต้หวันด้วย


ด้านคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศแห่งสภาประชาชนแห่งชาติ หรือรัฐสภาจีน ออกแถลงการณ์อีกฉบับ ระบุ การกระทำของแมคคาร์ธี ประสภาผู้แทนฯ สหรัฐฯ เป็นการละเมิดอย่างร้ายแรงต่อคำมั่นสัญญาของสหรัฐฯ ที่ให้ไว้กับจีนเกี่ยวกับไต้หวัน 


โฆษกสำนักกิจการไต้หวันแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ออกแถลงการณ์อีกฉบับเช่นกัน ประณามการพบกันระหว่างไช่กับแมคคาร์ธีว่า เป็นการกระทำยั่วยุอีกครั้งหนึ่งของเจ้าหน้าที่ของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า หรือดีพีพี ของไต้หวัน สมรู้ร่วมคิดกับสหรัฐฯ เพื่อให้ไต้หวันได้รับการหนุนจากสหรัฐฯ ในการแยกตัวเป็นอิสระ และเตือนว่า จะใช้มาตรการที่เด็ดขาด ในการลงโทษกลุ่มที่คิดแบ่งแยกดินแดนไต้หวัน



เหตุใดจีนไม่พอใจ “แมคคาร์ธี” และ “ไช่ อิงเหวิน” พบกัน

เหตุใดจีนไม่พอใจ “แมคคาร์ธี” และ “ไช่ อิงเหวิน” พบกัน



ทำไมจีนถึงโกรธมาก?


ไต้หวันเป็นประเด็นที่สะเทือนอารมณ์อย่างมาก สำหรับพรรคคอมมิวนิสต์ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน


สาธารณรัฐประชาชนจีนอ้างสิทธิ์ในไต้หวัน ว่าเป็นดินแดนของตน ตั้งแต่รัฐบาลสาธารณรัฐจีนที่พ่ายแพ้ได้หลบหนีไปยังเกาะแห่งนี้ในปี 1949 หลังจากแพ้สงครามกลางเมืองต่อประธานเหมา เจ๋อตุง อดีตผู้นำคอมมิวนิสต์ของจีน


The Straits Times ระบุว่า จีนเรียกร้องเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าไม่ให้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้นำไต้หวัน เพราะมองว่าเป็นการสนับสนุนความปรารถนาของไต้หวันที่ต้องการแสดงให้เห็นว่าไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของจีน


จีนไม่เคยละทิ้งการใช้กำลังเพื่อทำให้ไต้หวันที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอยู่ภายใต้การควบคุมของตน และในปี 2005 ได้ออกกฎหมายให้ปักกิ่งใช้พื้นฐานทางกฎหมายในการดำเนินการทางทหารกับไต้หวันได้ หากไต้หวันต้องการแยกตัวจากจีน




จีนจะมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อการประชุม?


จีนจัดซ้อมรบรอบไต้หวันเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว หลังจาก แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ไปเยือนไทเป และเตือนว่าจะตอบโต้โดยไม่ระบุรายละเอียด หากการประชุมระหว่างไช่กับแมคคาร์ธีดำเนินต่อไป


ขณะที่เจ้าหน้าที่ไต้หวันและสหรัฐฯ กล่าวก่อนการประชุมแมคคาร์ธี-ไช่ว่า พวกเขาไม่เห็นกิจกรรมที่ผิดปกติใด ๆ จากกองทัพจีน แต่ไต้หวันก็ตื่นตัวเช่นกัน หากจีนจะซ้อมรบเพิ่มเติม

เจ้าหน้าที่ไต้หวันและสหรัฐฯ ยังกล่าวด้วยว่า การจัดการประชุมนอกไต้หวันอาจช่วยลดปฏิกิริยาของจีนได้


ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา กองทัพอากาศจีนบินขึ้นสู่ท้องฟ้าใกล้ไต้หวันเกือบทุกวัน ซึ่งไต้หวันเรียกว่าสงคราม “เขตสีเทา” ที่ออกแบบมาเพื่อทดสอบและบั่นทอนกำลังรบของตน


แม้ว่ากองทัพอากาศจีนไม่เคยบินเข้าไปในน่านฟ้าของไต้หวัน แต่ก็ได้ยิงขีปนาวุธขึ้นสูงเหนือเกาะไต้หวัน หลังการเยือนของเพโลซี และจีนเตือนแมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ไม่ให้พบปะกับประธานาธิบดีไต้หวัน ไช่




ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและสหรัฐฯ เป็นอย่างไร?


ในปี 1979  สหรัฐฯ ได้ตัดความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับรัฐบาลในกรุงไทเปและยอมรับรัฐบาลในกรุงปักกิ่งแทน ดังนั้น สนธิสัญญาป้องกันไต้หวัน-สหรัฐฯ จึงสิ้นสุดลงในเวลาเดียวกัน


หลังปี 1979 ความสัมพันธ์ของสหรัฐฯ กับไต้หวัน อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติความสัมพันธ์ไต้หวัน ซึ่งกำหนดให้สหรัฐฯสามารถให้วิธีการป้องกันตนเองแก่ไต้หวันได้ตามกฎหมาย แต่ไม่ได้กำหนดให้สหรัฐฯ ต้องช่วยเหลือไต้หวันหากถูกโจมตี


ในขณะที่สหรัฐฯ ปฏิบัติตามนโยบาย “ความคลุมเครือทางยุทธศาสตร์” มานานแล้ว ว่าจะเข้าแทรกแซงทางทหารเพื่อปกป้องไต้หวันในกรณีที่จีนโจมตีหรือไม่ ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ กล่าวว่า เขายินดีที่จะใช้กำลังเพื่อปกป้องไต้หวัน


สหรัฐฯ ยังคงเป็นแหล่งอาวุธระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุดของไต้หวัน และสถานะซึ่งเป็นที่โต้แย้งของไต้หวัน ก็เป็นที่มาของความขัดแย้งอย่างต่อเนื่องระหว่างจีนและสหรัฐฯ




ไต้หวันมีจุดยืนและสถานะทางการทูตอย่างไร?


รัฐบาลไต้หวันกล่าวว่า เนื่องจากสาธารณรัฐประชาชนจีนไม่เคยปกครองเกาะนี้ จึงไม่มีสิทธิ์อ้างอำนาจอธิปไตยเหนือเกาะไต้หวัน ไม่มีสิทธิ์พูดแทนหรือเป็นตัวแทนของเกาะนี้ในเวทีโลก และมีเพียงชาวไต้หวันเท่านั้นที่สามารถตัดสินอนาคตของพวกเขาได้


ทั้งนี้ ชื่ออย่างเป็นทางการของไต้หวันยังคงเป็นสาธารณรัฐจีน แม้ว่าปัจจุบันรัฐบาลมักเรียกตัวเองว่าสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน)


ขณะนี้มีเพียง 13 ประเทศเท่านั้นที่ยอมรับไต้หวันอย่างเป็นทางการ หลังจากฮอนดูรัสยุติความสัมพันธ์ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา


รัฐบาลไต้หวันกล่าวว่า ตนเองเป็นประเทศที่มีอำนาจอธิปไตย จึงมีสิทธิในความสัมพันธ์แบบรัฐต่อรัฐ




ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับจีนเป็นอย่างไร?


The Straits Times ระบุว่า ไม่ดีนัก จีนมองว่าไช่เป็นผู้แบ่งแยกดินแดน และปฏิเสธเสียงเรียกร้องจากเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อเจรจา ไช่กล่าวว่าเธอต้องการสันติภาพ แต่รัฐบาลของเธอจะปกป้องไต้หวันหากถูกโจมตี


เธอกล่าวว่า สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ขณะที่จีนกล่าวว่า ไช่ต้องยอมรับว่าทั้งจีนและไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของ “จีนเดียว”

————

แปล-เรียบเรียง: สุภาพร เอ็ลเดรจ 

ภาพ: Reuters


ข้อมูลอ้างอิง: 

The Strait Times

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง