หุ้นไทยปิดร่วง แรงขายหุ้นพลังงาน-ฟุตซี่กดตลาด

นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่1,564.03      จุด ลบ 1.70 จุด หรือ 0.11  % ระหว่างวันซื้อขายสูงสุด 1,573.13    จุด และต่ำสุดที่ 1,562.35จุด มูลค่าการซื้อขาย 88,128.99 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยผันผวนก่อนปิดปิดลบสวนทางภูมิภาคที่บวกบาง ๆ เนื่องจากมีแรงเทขายขายหุ้นในกลุ่มพลังงาน เช่น PTT,PTTGC,PTTEP หลังจากที่ราคาน้ำมันปรับตัวลง2 % ประกอบกับนักลงทุนรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดในวันที่ 16-17 มี.ค.นี้โดยจะรู้ผลเป็นทางการในวันที่ 18 มี.ค.เวลา 01.00 น.

นอกจากนี้มีกระแสข่าวตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เตรียมคลอดหลักเกณฑ์และมาตรการเกี่ยวกับหลักทรัพย์ที่มีสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float) ที่ต่ำเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้ทำให้มีแรงเทขายหุ้น DELTA ส่งผลให้ราคาลง 14 บาท หรือ 4.06% มาปิดที่ 331 บาท  ขณะที่หุ้นค้าปลีกวันนี้ได้ปรับตัวลงเหมือนกัน เช่น CPALL,MAKRO รวมถึง STA แม้ว่าจะมีปัจจัยบวกจากนายกรัฐมนตรีฉีดวัคซีนโควิดเข็มแรก  ส่วนโควิดบางแคที่ระบาดก็ยังไม่น่ากังวลมากนัก เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อยังไม่มากเท่ากับช่วงก่อนหน้านี้ที่ระบาดวันละ 600-700 คน  ด้านปัจจัยที่ติดตามนอกจากรอผลประชุมเฟดแล้วยังเป็นเรื่องการเมืองในประเทศการแก้ไขรัฐธรรมนูญรอดูความความคืบหน้ามากน้อยแค่ไหน

นอกจากนี้การที่ดัชนี FTSE ประกาศปรับน้ำหนักการลงทุน (FTSE Rebalance) โดยประกาศรายชื่อหุ้นชุดใหม่อย่างเป็นทาง ซึ่งมีผลการปรับน้ำหนักวันที่  19 มี.ค. นี้ ด้วยการลดน้ำหนักหุ้นไทยลง จาก 2.3% สู่ 2.25% หรือลดลงประมาณ 120ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้มีแรงเทขายหุ้นออกมากดดัชนีร่วง 

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นที่แข็งแกร่งและเป็นเป้าหมายของfund flow ที่ยังแลกการ์ด คือ SCC ราคาเป้าหมาย 450 บาทและหุ้นเปิดเมืองคือ CENTEL ราคาเป้าหมาย 40 บาท ประเมินกรอบแนวรับพรุ่งนี้ 1,550 จุด แนวต้านที่ 1,580 จุด