หุ้นไทยแดงยกแผงสอดรับหุ้นเอเชียร่วง

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. หยวนต้า เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,491.11 จุด  ลบ 9.50 จุด หรือ 0.63% โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวสูงสุดที่ระดับ  1,507.78  จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,485.94    จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย  96,248.34  ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยปิดลบตามตลาดหุ้นเอเชียที่ส่วนใหญ่ปิดลบ เช่น ฮ่องกงมีการจัดเก็บอากรสแตมป์ซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นจาก 0.1% เป็น 0.13% และเกาหลีใต้ก็ร่วง ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลงจากแรงขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีจึงทำให้ตลาดหุ้นส่วนใหญ่เข้าสู่แดนลบ นอกจากนี้ในประเทศมีแรงเทขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวหลังจากที่ปรับขึ้นแรงมาก่อนหน้านี้จึงทำให้ตลาดพักฐานบ้าง ยกเว้นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น CPALL  และ STA ยังฟื้นตัวดี

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ต้องติดตามการประกาศงบของบจ.ไตรมาส 4/63 ในช่วงโค้งสุดท้ายสัปดาห์นี้ว่าจะชะลอตัวลงมากน้อยแค่ไหนผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปีหรือบอนด์ยีลด์จะชะลอลงหรือไม่ เพราะเป็น sentiment เชิงลบต่อตลาด ทั้งนี้ภายหลังที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดคงใช้นโยบายดอกเบี้ยผ่อนคลายและมาตรการคิวอี แม้เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่จำเป็นต้องดูดสภาพคล่อง ทำให้บอนด์ยีลด์ลดความร้อนแรงลงส่งผลให้ตลาดหุ้นกลับมาพลิกฟื้นจากที่ปรับตัวลง

นอกจากนี้ต้องติดตามค่าเงินหยวนของจีนที่เริ่มแข็งค่าจะเป็นบวกต่อตลาดเอเชีย ขณะเดียวกันในวันพรุ่งนี้ MSCI  จะปรับเพิ่มและลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นไทย โดยหุ้น OR ถูกเพิ่มน้ำหนักเข้าคำนวณดัชนีด้วยเกณฑ์ Fast track แต่หุ้นบางตัวที่ต้องถูกปรับลด ประกอบกับพรุ่งนี้วันสุดท้ายการทำงานก่อนหยุดยาว 3 วันอาจทำให้มูลค่าการซื้อขายเบาบาง แนะนำหุ้น Commodity หรือสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น CPF,CPALL เครื่องดื่ม เนื่องจากราคาปรับตัวลงมามาก เช่น ICHI เป็นต้น ส่วนหุ้นที่ควรหลีกหลีกเป็นกลุ่มอิเลคทรอนิกส์และกลุ่มได้รับผลกระทบจากบอนด์ยีลด์ปรับตัวเพิ่ม ประเมินกรอบแนวรับพรุ่งนี้  1,480 จุด แนวต้าน 1,500 จุด