แบงก์ชะลอปล่อยกู้กลุ่มเสี่ยง รายได้ไม่ถึงหมื่น

วันนี้ (26ส.ค.62) น.ส.ขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้ชะลอการปล่อยสินเชื่อสำหรับกลุ่มที่มีรายได้ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือน เพราะถือว่ากลุ่มนี้มีความเปราะบางสูง อีกทั้งธนาคารยังได้ชะลอการออกโปรโมชั่นทางการตลาด เพื่อลดการจูงใจให้ลูกค้าเข้ามาก่อหนี้เพิ่มเติม หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้สถาบันการเงินลดการกระตุ้นการก่อหนี้เกินควร เช่น การผ่อนดอกเบี้ย 0% ในขณะที่ไปท่องเที่ยวต่างประเทศ หรือซื้อสินค้าฟุ่มเฟื่อย เชื่อว่าแคมเปญเหล่านี้ก็จะเห็นน้อยลงด้วย และธนาคารจะกลับมาปล่อยกู้จนกว่ากลุ่มนี้มีสัญญาณดีขึ้น

นางอภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ในส่วนของธนาคารมีการระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันเช่นเดียวกัน และชะลอการออกแคมเปญกระตุ้นการก่อหนี้ในส่วนสินเชื่อไม่มีหลักประกันลง เน้นทำแคมเปญเฉพาะสินเชื่อที่มีหลักประกันเท่านั้น เช่น สินเชื่อรถแลกเงิน เนื่องจากปัจจุบันเริ่มเห็นความเสี่ยงมากขึ้น ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แม้ปัจจุบันหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในส่วนสินเชื่อไม่มีหลักประกัน จะไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น แต่เริ่มเห็นการผิดนัดชำระในกลุ่มสินเชื่อดังกล่าวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะค้างชำระตั้งแต่ 30-90 วัน (เอสเอ็ม) ดังนั้นต้องระวังปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ กลุ่มที่จะลดการปล่อยสินเชื่อลงคือกลุ่มที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท พร้อมจะปรับโฟกัสไปปล่อยสินเชื่อกลุ่มที่มีรายได้เกิน 30,000 บาทมากขึ้นหากดูพอร์ตลูกค้าที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท ในพอร์ตของธนาคาร ถือว่าไม่สูงมากนัก มีสัดส่วนไม่ถึง 30% ดังนั้นคาดว่าสัดส่วนลูกค้ากลุ่มนี้น่าจะปรับลดลงต่อเนื่อง โดยกลุ่มที่มีอยู่แล้วคงไปทำอะไรไม่ได้และไปสกรีนกลุ่มใหม่มากขึ้น เช่น กลุ่มรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทลงมา คงไม่ลงไปเล่นแน่นอน และหากดูพอร์ตลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท ขึ้นไป