TNN เฟดและมุมมองตลาดมีการคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยที่สวนทางกัน

TNN

Wealth

เฟดและมุมมองตลาดมีการคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยที่สวนทางกัน

เฟดและมุมมองตลาดมีการคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยที่สวนทางกัน

ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้น แต่ให้ระวังแรงเทขายแรงออกมาและอาจเกิดการปรับฐานอีกครั้ง

ทองคำพุ่งแรงอีกครั้งในรอบ 1 ปีทะลุบริเวณ 2,000 ดอลลาร์ ด้วยความกังวลของวิกฤตภาคธนาคารอาจยังไม่จบ แม้อาจจะคลี่คลายลงบ้างทั้งฝั่งสหรัฐและยุโรป แต่อาจเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ขณะที่เฟดได้มีการขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75%-5.00% ในการประชุมล่าสุดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ FED Dot Plot เฟดยังคงยืนยันสิ้นปีนี้อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ที่ 5.1% แต่ย้ำว่าจะไม่ลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งสะท้อนต่อการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ปัจจัยดังกล่าวยิ่งทำให้หนุนแรงซื้อราคาทองคำเข้ามา เนื่องจากสะท้อนว่าเฟดใกล้หยุดวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น แต่สวนทางกับตลาดคาดว่าสิ้นปีนี้อัตราดอกเบี้ยของเฟดจะอยู่ที่ 4.00%-4.25% แสดงว่ามุมมองของตลาดยังคงคาดว่าเฟดจะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในปีนี้ รวมถึงตลาดมองว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนับตั้งแต่ช่วงกลางปีนี้เป็นต้นไป ขณะเดียวกันก็คาดว่าเฟดอาจจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้เช่นกัน ปัจจัยที่ทำให้ตลาดมีมุมมองเช่นนี้มาจาก ความกังวลของวิกฤตภาคธนาคารที่อาจจะส่งผลต่อเศรษฐกิจสหรัฐในวันข้างหน้า


ความกังวลวิกฤตภาคธนาคารอาจยังไม่จบ!!

ตอนนี้ตลาดเริ่มคลายความกังวลไปบ้างจากที่ฝั่งยุโรป ธนาคารยูบีเอส (UBS) ธนาคารรายใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ได้ตกลงเข้าซื้อกิจการธนาคารเครดิต สวิส ในวงเงิน 3 หมื่นล้านฟรังก์สวิส   แต่การเข้าซื้อครั้งนี้เป็นการเข้าซื้อเพื่อช่วยเหลือไม่ให้กระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงที่กว้างขึ้น จึงเป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างเร็ว เพราะโดยปกติแล้วการเข้าซื้อกิจการมักจะต้องมีการทำ Due diligence ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 เดือน ส่วนทางด้านสหรัฐ นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐพยายามเรียกความเชื่อมั่นให้ตลาดว่าเงินฝากชาวอเมริกันจะยังคงปลอดภัยในช่วงเวลาที่ภาคธนาคารสหรัฐเผชิญภาวะปั่นป่วน แม้จะเริ่มคลี่คลายไปบ้าง แต่อาจเป็นเพียงชั่วคราว ผลกระทบที่ตามมาของการเกิดวิกฤตภาคธนาคารอาจจะยังไม่จบ ซึ่งก็มีข่าวมาว่าสหรัฐกำลังจะตรวจสอบธนาคารเครดิต สวิส และธนาคารยูบีเอส ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือผู้มีอำนาจรัสเซียในการหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรหรือไม่? ซึ่งเคยมีประวัติก่อนที่รัสเซียจะบุกยูเครน ธนาคารเครดิต สวิสเคยได้บริหารจัดการเงินกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับลูกค้ารัสเซีย ซึ่งสร้างรายได้ให้กับธนาคารราว 500-600 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี คำถามคือ ถ้าตรวจสอบแล้วผลออกมาพบว่าธนาคารเครดิต สวิส มีส่วนเกี่ยวข้อง สหรัฐจะจัดการอย่างไร ซึ่งก่อนหน้านี้สหรัฐเคยประกาศว่าจะคว่ำบาตรต่อบุคคล หรือองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือกับรัสเซียในการสงคราม ซึ่งอาจจะยิ่งซ้ำรอยวิกฤตภาคธนาคารเข้าไปอีก นอกจากนี้อาจจะยังมีธนาคารอีกหลายแห่งในสหรัฐที่กำลังเผชิญความเสี่ยงเช่นเดียวกันกับธนาคาร SVB SB ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐ และเศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน ท่ามกลางเงินเฟ้อที่เป็นตัวแปรสำคัญที่ทั่วโลกยังคงต้องเผชิญอยู่ ซึ่งคาดว่าเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มลดลงนับตั้งแต่กลางปี 2565 มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเริ่มพลิกขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้อาจทำให้เฟดไม่กล้าที่จะขึ้นดอกเบี้ยแรงเหมือนเช่นปี 2565 ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับฝั่งธนาคารกลางยุโรปเช่นกัน ขณะที่สหรัฐยังคงเผชิญต่อหนี้สาธารณะที่เพิ่มสูงขึ้น และทะลุเพดานไปแล้ว ซึ่งในเดือนก.พ.นั้นสหรัฐได้ขาดดุลงบประมาณเพิ่ม 21% ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาหนึ่งของสหรัฐในการหาเงินมาจ่ายหนี้ และด้วยภาวะที่เงินเฟ้อมีความเป็นไปได้ที่จะกลับขึ้นไป และมีความเสี่ยงต่อการเกิดเศรษฐกิจถดถอยเช่นกัน จึงยิ่งทำให้เศรษฐกิจโลกยิ่งเสี่ยงที่จะเกิดภาวะ “Stagflation” มากขึ้น และจึงต้องจับตาต่อไปว่าเศรษฐกิจของจีน และอินเดียจะเข้ามามีบทบาทพยุงต่อเศรษฐกิจโลกได้มากน้อยเพียงใด


ความกังวลวิกฤตภาคธนาคารอาจยังไม่จบ

Gold Bullish 

    ภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย

    ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ได้แก่ สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ทวีความรุนแรงขึ้น ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน

    หนี้สหรัฐชนเพดานที่ระดับ 31.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

    ความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตภาคธนาคาร 

    การชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด


Gold Bearish 

    การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่มีความคืบหน้ามากขึ้น


ในสัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้น แต่ให้ระวังแรงเทขายแรงออกมาและอาจเกิดการปรับฐานอีกครั้ง  ทั้งนี้แนะนำเข้าซื้อทองคำ บริเวณราคา 1,960 ดอลลาร์ ส่วนสัปดาห์นี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค. โดย Conference Board  ยอดทำสัญญาขายบ้านรอปิดการขายเดือนก.พ. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ จีดีพีไตรมาส 4 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือนก.พ. ดัชนี PMI เขตชิคาโกเดือนมี.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.ของม.มิชิแกน นอกจากนี้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 2/2566


ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่  1,960 ดอลลาร์ และ 1,945 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 2,010 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,030 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 31,900 บาท และ 31,700 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 32,300 บาท และ 32,400 บาท


ธนรัชต์ พสวงศ์ 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง


ติดตามข่าวหุ้นและการลงทุนทางไลน์

• Line @TNNWEALTH : https://bit.ly/3tCKmiD                          

———————————————————————

ติดตาม TNN Wealth ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่ 

• Youtube : https://bit.ly/TNNWealthYoutube

• TikTok : https://bit.ly/TNNWealthTikTok

 

หรือดูรายการ Live ได้ทาง https://bit.ly/3HmUu4O

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวแนะนำ