หุ้นไทยวันนี้ เน้น selective buy กลุ่มที่น่าฟื้นตัวปี 66
หุ้นไทยวันนี้ เน้น selective buy กลุ่มที่น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจนในปี 2566
บล. ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) มองความกังวลเกี่ยวกับวิกฤติสถาบันการเงินในระยะสั้นน่าจะผ่านจุดแย่สุดไปแล้ว หลังจากตลาดตกใจกับการที่วานนี้รมว.คลังสหรัฐฯ ยืนยันไม่มีการพิจารณาเพิ่มระดับการคุ้มครองเงินฝากจากบัญชีละ $250,000 เหรียญอย่างไรก็ตาม ล่าสุดในการแถลงต่อกรรมาธิการด้านงบประมาณ เจเน็ต เยลเลน ยืนยันว่ากระทรวงการคลังได้ใช้เครื่องมือในการรับมือวิกฤติที่รวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤติลุกลาม และพร้อมดำเนินมาตรการเพิ่มเติมหากจำเป็น ทำให้ความกังวลภาคธนาคารจะเริ่มคลี่คลายลง
อย่างไรก็ตาม ด้วยวัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มถึงจุดสูงสุดเร็วกว่าคาด (ล่าสุดนักลงทุนประเมินเฟดคงดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้าด้วยความน่าจะเป็น 64%) จะทำให้หุ้นกลุ่มได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นอาทิ ธนาคาร และประกันชีวิต มีแนวโน้มถูกปรับลดน้ำหนักการลงทุนลง
ภาพรวมกลยุทธ์: มองตลาดผันผวนระยะสั้นจากการปรับพอร์ตลดน้ำหนักธีมดอกเบี้ยขาขึ้นไปเป็นดอกเบี้ยผ่านจุดสูงสุด ทยอยสะสมเน้น selective buy กลุ่มที่น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจนในปี 2566 และยังมีการถือครองที่ต่ำ (Underowned) ได้แก่ และหุ้นที่มีปัจจัยบวกรายตัว โดยหุ้นที่เรามองสามารถทยอยสะสม ได้แก่ MAJOR, CPALL, MAKRO, BJC, PTTGC, IRPC, TIDLOR, AMANAH, MILL, TSTH, KSL, ROJNA, SAMART, SDC เป็นต้น
ด้าน บล.กรุงศรี พัฒนสิน คาดตลาด “ขึ้นทดสอบ 1,600 จุด” ต้าน 1602/1609จุด รับ 1582/1577 เชื่อว่าทิศทางลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงยังเป็นภาพบวก จากวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นปลายทาง สะท้อนจากภาพ Bond Yield 2 ปีสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดเหลือ 3.83% ต่ำสุดในรอบปี หนุนหุ้นกลุ่ม Growth เริ่มฟื้นตัวนำ แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯยังมีความผันผวน จากความกังวลหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะธนาคารขนาดกลาง-เล็ก ที่ยังเห็นสัญญาณการรับสภาพคล่องจาก FED โดย FED Balancesheet ที่ยังคงเพิ่มขึ้น 9.4หมื่นล้านเหรียญฯจากสัปดาห์ก่อน สะท้อน FED เริ่มชะลอ QT เป็นตัวแปรถ่วง Dollar Index มีแนวโน้มอ่อนค่าต่อ 102จุด+/- หนุนตลาด EM-Asia โดยเฉพาะตลาดตราสารหนี้ Asia ที่มีเงินไหลเข้า WTD +2855ล้านเหรียญฯ และเริ่มซื้อหุ้นเอเชียใน 1-2วันที่ผ่านมา แนะกลุ่มได้ประโยชน์ Bond Yield ลดลง(เช่าซื้อ, ท่องเที่ยว, Domestic) หุ้นแนะนำ: BE8, HMPRO, SAWAD.
