TNN online หุ้นไทยวันนี้ยังเผชิญความผันผวน หลังตลาดหุ้นยุโรปดิ่งลง

TNN ONLINE

Wealth

หุ้นไทยวันนี้ยังเผชิญความผันผวน หลังตลาดหุ้นยุโรปดิ่งลง

หุ้นไทยวันนี้ยังเผชิญความผันผวน หลังตลาดหุ้นยุโรปดิ่งลง

หุ้นไทยวันนี้ยังเผชิญความผันผวน หลังตลาดหุ้นยุโรปดิ่งลงมากกว่า 3% จากความกังวล Credit Suisse จะเป็นรายต่อไป

บล.กรุงศรี พัฒนสิน  คาดตลาด “Sideways” ต้าน 1575/1583 จุด รับ 1551/1540 จุด ระยะสั้นสินทรัพย์เสี่ยงยังเผชิญความผันผวน กลุ่มสถาบันการเงินโลก หลัง Credit Suisse ที่ผู้ถือหุ้นใหญ่มีข้อจำกัดในการช่วยเหลือด้านเงินทุนเพิ่ม เพราะจะทำให้ถือเกินกว่ากฎระเบียบ แต่ล่าสุดธนาคารกลางสวิสเซอร์แลนด์ยืนยันสนับสนุนสภาพคล่อง ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯฟื้นตัวปลายตลาดลดความผันผวนลงไปบ้าง อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอลง ทั้งทิศทางเงินเฟ้อผู้ผลิตสหรัฐฯ PPI ก.พ. 23 ลดลงมีนัยฯ +4.6%y-y จาก prev. ที่ +5.7%y-y ทำให้วงจรเงินเฟ้อและดอกเบี้ยขาขึ้นก้าวสู่ปลายทางและไม่น่าไม่เกินกลางปี 2023 และระยะถัดไปคาดตลาดจะหันมาพิจารณาทิศทางเศรษฐกิจรายภูมิภาค ซึ่งฝั่งเอเชียรวมถึงไทยจะวิ่งไปกับเศรษฐกิจจีน โดยยังมอง SET โซน 1540-1490 จุดเป็นจุดเพิ่มน้ำหนักลงทุน 5% วันนี้เน้นหุ้นอิงภายใน แนะนำ: ADVANC, GULF, SCGP (16 Mar) UTRADE Morning Call - หุ้นยังถูกกดดันจาก Bank liquidity risk & Bull cycle of bond

ด้านบล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุว่าตลาดยังผันผวนภาคธนาคาร ติดตามสถานการณ์ของเครดิตสวิส ตลาดหุ้นยุโรปปรับลดลงในระดับมากกว่า 3% จากสถานการณ์ความกังวลวิกฤติภาคธนาคาร อาจลุกลามมายังยุโรป โดยธนาคารขนาดใหญ่อย่างเครดิตสวิส เริ่มเผชิญความผันผวนจากวิกฤตสภาพคล่อง ทำให้จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนเงินทุนเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง Saudi National Bank (SNB) ไม่สามารถใส่เงินเพิ่ม เนื่องจากจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นขึ้นไปเกินกว่า 10% ล่าสุดธนาคารประสบความสำเร็จใจการขอความช่วยเหลือเป็นเงินกู้ยืมจากธนาคารกลางสวิส 5 หมื่นล้านสวิสฟรังซ์ ซึ่งมองว่าจะมีส่วนช่วยในการประคองสถานการณ์ระยะสั้น แต่การแก้สถานการณ์ถาวร น่าจะต้องพึ่งแนวทางการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มทุน, การตัดขายสินทรัพย์ หรือแม้แต่การควบรวม ทำให้ในระยะสั้นตลาดจะยังให้น้ำหนักกับปัญหาเครดิตสวิส และภาคธนาคารทั่วโลกไปอีกระยะ

ด้วยกรอบล่าง Valuation ที่ 1,520 จุด มีโอกาสที่จะเริ่มเห็นตลาดเริ่มยืน แต่หุ้นจะเผชิญความผันผวนจากความน่าสนใจในการลงทุนที่ด้อยกว่าตราสารหนี้ ด้วยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง เราประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index ที่ 14.5-16.5x PER (ลดลงจากเดิม 0.5x PER) คิดเป็นระดับดัชนีที่ 1,520-1,740 จุด ทำให้เราประเมิน SET Index เริ่มเข้าใกล้จุดที่จะเริ่มยืนได้ อย่างไรก็ตาม การเข้าสู่ช่วงเริ่มต้นของวัฏจักรกระทิงรอบใหม่ของตลาดพันธบัตร (New bull cycle of bond market) จะทำให้กระแสเงินทุนม๊โอกาสเพิ่มน้ำหนักพันธบัตรและลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้น ซึ่งจะส่งผลให้ในระยะแรกของการเกิด allocation หุ้นอาจเผชิญความผันผวน ซึ่งเรามองรับมือได้โดยการเน้นเลือกหุ้นที่ยังมีการถือครองต่ำ (Under-owned), หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว หรือหุ้นที่มีลักษณะคล้ายพันธบัตร (bond-like stock)

ภาพรวมกลยุทธ์: ทยอยสะสม เน้นหุ้นที่มีลักษณะ defensive โดยติดตามสถานการณ์ธนาคารในยุโรป และการส่งสัญญาณยืนยันไม่ลดดอกเบี้ยของเฟดในการประชุม 22 มี.ค.นี้ อาจหนุนการฟื้นตัวของหุ้น ทยอยสะสมเน้น selective buy กลุ่มที่น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจนในปี 2566 และยังมีการถือครองที่ต่ำ (Underowned) ได้แก่ และหุ้นที่มีปัจจัยบวกรายตัว โดยหุ้นที่เรามองสามารถทยอยสะสม ได้แก่ MAJOR, CPALL, MAKRO, BJC, PTTGC, IRPC, TIDLOR, AMANAH, MILL, TSTH, KSL, ROJNA, SAMART, SDC เป็นต้น

ข่าวแนะนำ