TNN online หุ้นไทยวันนี้ ใกล้หมดแรงกดดัน

TNN ONLINE

Wealth

หุ้นไทยวันนี้ ใกล้หมดแรงกดดัน

หุ้นไทยวันนี้ ใกล้หมดแรงกดดัน

หุ้นไทยวันนี้ ใกล้หมดแรงกดดันจากงบ ได้แรงหนุนจาก MSCI

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) คาดว่าแรงกดดันจากผลประกอบการไตรมาส 4/65 ใกล้สิ้นสุด บริษัทจดทะเบียนประกาศผลประกอบการถึงสิ้นวันทำการ 27 ก.พ.66 จำนวนทั้งสิ้น 631 แห่ง (79.8%) มีกำไรเพิ่มขึ้น 177 แห่ง (28.1%), กำไรทรงตัว 131 แห่ง (20.8%), กำไรลดลง 323 แห่ง (51.2%) โดยมีผลกำไรรวม 141,961 ล้านบาท ลดลง 43.3% YoY แม้ผลประกอบการของบจ.ครึ่งหนึ่งดูอ่อนแอหรือต่ำกว่าคาด แต่ไม่อยากให้นักลงทุนมองแย่เกินไป และคาดแรงกดดันจากงบจะเริ่มผ่อนลง เนื่องจาก 

1) ใกล้สิ้นสุดประกาศงบ โดยคาดผลประกอบการส่วนใหญ่ออกภายในเช้าวันที่ 2 มี.ค. 

2) ผลประกอบการบจ.ขนาดใหญ่มีรายการตั้งสำรองพิเศษ ในปีที่มีกำไรสูงกว่าปกติ 

3) บริษัทจำนวนมามีแนวโน้มผลประกอบการแย่สุดใยไตรมาส 4/65 ก่อนที่จะเริ่มดีขึ้นในปี 66 ได้แก่ พวกกลุ่มที่มีต้นทุนจากพลังงาน รวมถึงปิโตรเคมีที่น่าจะเริ่มเห็นผลดีจากการที่จีนกลับมาเปิดประเทศ 

4) โมเมนตัมบวกจากการท่องเที่ยว ที่สนับสนุนการฟื้นตัวของการบริโภคและกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศ ทำให้ตลาดหุ้นใกล้จุดที่มีโอกาสฟื้นตัว


MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักในการ rebalancing รอบนี้ การปรับพอร์ตของ MSCI รอบนี้ นอกจากมีหุ้นเข้าออกตามปกติแล้ว ยังมีการปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยขึ้นเล็กน้อย ประมาณ 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ยังมีการเพิ่มน้ำหนักเป็นกรณีพิเศษ จากการที่ TRUE (หลังการควบรวม DTAC+TRUEE) จะกลับเข้าทำการซื้อขาย ส่งผลให้มีโอกาสเห็นการกลับมาซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ ทั้งนี้ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าใกล้แนวต้าน 35.5-35.8 บาท/เหรียญฯ คาดเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้แรงขายต่างชาติมีโอกาสชะลอตัว ทั้งนี้การปรับตัวหุ้นสิ้นวันทำการมีดังนี้ // MSCI Global Standard (+) เข้า – BANPU (-) ออก – ไม่มี // MSCI Global Small Cap (+) เข้า - AURA, BTG, ONEE, SNNP, THCOM (-) ออก - BANPU, COM7, TIDLOR, TISCO

ภาพรวมกลยุทธ์: น่าจะใกล้จุดฟื้นตัว แต่ภาพระยะกลางเริ่มมีความไม่ชัดเจน โดยต้องรอประเมินจากการกลับไปทดสอบ 1,645-1,650 จุด   การเก็งกำไรระยะสั้นเน้น selective buy กลุ่มที่น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจนในปี 2566 และยังมีการถือครองที่ต่ำ (Underowned) ได้แก่ และหุ้นที่มีปัจจัยบวกรายตัว โดยหุ้นที่เรามองสามารถทยอยสะสม ได้แก่ MAJOR, CPALL, MAKRO, BJC, PTTGC, IRPC, TIDLOR, AMANAH, MILL, TSTH, KSL, ROJNA, SAMART, SDC เป็นต้น 


ด้าน บล.โนมูระ พัฒนสิน คาดว่าตลาด “เข้าสู่จุดฟื้นตัว” ต้าน 1638/1643จุด รับ 1619/1614จุด จิตวิทยาการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงวันนี้ดีขึ้น หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ สลับมาเป็นภาพอ่อนตัวแย่กว่าคาดบ้าง ช่วยให้ Bond Yield 10 ปีสหรัฐฯ และ Dollar Index พักตัวลง และราคาน้ำมันที่ตอบรับทางลบวานนี้ บวกกับ ฐานราคาน้ำมันตั้งแต่ช่วง ก.พ. 22 ที่ยกสูงขึ้น เชื่อว่าจะช่วยให้ภาพเงินเฟ้อตั้งแต่ ก.พ. 23 เห็นภาพดีขึ้น จะกลับมาหนุนตลาด ขณะที่ไทยกำลังจะก้าวข้ามช่วงรอยต่อรายงานกำไร 4Q22 ที่คาดเป็นจุดแย่สุดก่อนฟื้นตัวในปี 2023 โดยสัญญาณฟื้นยังชัด นักท่องเที่ยวต่างชาติ ม.ค. สูง 2.14 ล้านคน และเริ่มเห็นภาพเป็นฐานที่จะเพิ่มขึ้นทุกเดือน ผสาน เม็ดเงิน MSCI เพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยวันนี้ และหุ้นไทยที่อยู่ในโซนลงทุน วันนี้เพิ่มน้ำหนักลงทุน 5% ในกรอบ 1635-1610จุด สู่ 75% โดยหุ้นงบเด่น+อิงภายใน+China Ropening นำตลาด  วันนี้แนะนำ: HANA, ICHI, ILM

ข่าวแนะนำ