ตรุษจีน 2566 คึกคักมากขึ้นเงินสะพัดทั่วประเทศสูงสุดในรอบ3ปี

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาด เทศกาลตรุษจีนปีนี้คึกคักมากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และเป็นวันหยุดทำให้ เงินสะพัดทั่วประเทศกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 13.6 นับเป็นมูลค่าสูงสุดในรอบ 3 ปี 

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคช่วงเทศกาลตรุษจีน พบว่า มีความผ่อนคลายความกังวลจากผลกระทบโควิด-19 ไปมาก ประกอบกับปีนี้ช่วงตรุษจีน ตรงกับวันหยุดสุดสัปดาห์ ทำให้จะมีการทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น จึงประเมินว่า เม็ดเงินสะพัดช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2566 จะอยู่ที่ 45,017 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 13.6 เป็นมูลค่าสูงสุดในรอบ 3 ปี เป็นการกลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 4 ปี และเป็นอัตราการบวกที่สูงสุดนับตั้งแต่หอการค้าทำการสำรวจมาในรอบ 15 ปี  

การใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น ภาวะเศรษฐกิจดีขึ้นและได้รับโบนัสเพิ่มขึ้น รวมถึงมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐทำให้มีการใช้จ่ายมากขึ้น นอกจากนี้ยังมองว่าราคาของเซ่นไหว้ในช่วงตรุษจีนปีนี้ ปรับตัวสูงขึ้น แต่ยังคงซื้อสินค้าเท่าเดิมเพราะมีปีละ 1 ครั้ง ในขณะที่ยังมีการวางแผนให้เงินแต๊ะเอียเพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นวันหยุดจำเป็นต้องพบเครือญาติ รวมถึงการใช้เงินทำบุญ และส่วนหนึ่งยังคงมีการวางแผนท่องเที่ยว ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่ ร้อยละ 70.3 จะไม่ได้มีการวางแผนเดินทางท่องเที่ยว เนื่องจากได้เดินทางไปแล้วในช่วงเทศกาลปีใหม่ ยังกังวลโควิด 19

ขณะที่ ผลสำรวจผู้ประกอบการร้านค้าที่มีสินค้าเกี่ยวกับเทศกาลตรุษจีน พฤติกรรมของลูกค้า ส่วนใหญ่ยังมาซื้อด้วยตนเอง และชำระด้วยเงินสดมากกว่าร้อยละ 80 และเชื่อว่า บรรยากาศการใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเล็กน้อย โดยจำนวนชิ้นในการซื้อเท่าเดิม แต่ต้องจ่ายค่าสินค้าเพิ่มขึ้น 

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังมีมุมมองต่อเศรษฐกิจไทยปี 2566 จะมีการเติบโตในกรอบร้อยละ 3.01-3.50 อีกทั้ง ยังเสนอรัฐบาลใหม่ ให้เร่งแก้ปัญหาทุจริตในทุกระดับ , ช่วยเหลือธุรกิจที่มีโอกาสเติบโต และดูแลสินค้าให้สอดคล้องกับราไยด้ของผู้มีรายได้น้อย 

ภาพจาก TNN ONLINE