TNN online เปิดโผ 16 หุ้นเด่นเด้งรับตลาดหุ้นฟื้น คลายกังวลเฟดสปีดขึ้นดอกเบี้ย

TNN ONLINE

Wealth

เปิดโผ 16 หุ้นเด่นเด้งรับตลาดหุ้นฟื้น คลายกังวลเฟดสปีดขึ้นดอกเบี้ย

เปิดโผ 16 หุ้นเด่นเด้งรับตลาดหุ้นฟื้น คลายกังวลเฟดสปีดขึ้นดอกเบี้ย

บล.กสิกรไทยมองหุ้นไทยเดือนส.ค.ฟื้นตัว คลายความกังวลเฟดใช้นโยบายการเงินตึงตัว หลังอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ถึงจุดสูงสุดแล้วและภาวะถดถอยกำลังคลี่คลาย ส่อง 16 หุ้นเด่น

บล.กสิกรไทยระบุว่าคงเป้าหมาย SET ปี 2565 ไว้ที่ 1,650 จุด เรามีมุมมองเป็นกลางต่อหุ้นไทยจาก upside ที่จำกัดต่อเป้าหมาย SET ที่ 1,650 จุด ตรึงไว้ที่ EPS (กำไรต่อหุ้น) ปี 2566 ที่ 107.40 บาทและ EYG 3.47% (หรือ -0.875SD) ประมาณการกำไรต่อหุ้นปี 2566 ปรับเพิ่มขึ้น 0.3% MoM มุมมองในประเทศของเราตอนนี้เห็นผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของไทยที่ 3.10% ณ สิ้นปี 2565 


ขณะที่ SET Index ลดลง -4% YTD เนื่องจาก PER ล่วงหน้า 12 เดือน ถูกปรับลดลงเหลือ 15.0 เท่า เทียบกับ 18.0 เท่า ณ สิ้นปี 2564 จากความกลัวเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น อย่างไรก็ตาม EPS ของตลาด ปี 2565-2566 มีการปรับเพิ่มขึ้น 11%/20% YTD เป็น 98.3/107.40 นำโดยแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้นตามลำดับ

ทั้งนี้คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะฟื้นตัวในเดือนส.ค. 2565 จากการคลายความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการเงินแบบตึงตัวของเฟด เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ถึงจุดสูงสุดแล้วและภาวะถดถอยกำลังคลี่คลาย Fed Fund Futures คาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนก.ย. และ0.25 % ในทุกการประชุมสองครั้งสุดท้ายของปีนี้ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ สูงสุดที่ 3.25%-3.5%


 สำหรับวัฎจักรที่ตึงตัวนี้ ปัจจัยสนับสนุนเชิงบวกที่สำคัญอื่น ๆ ในครึ่งปีหลังได้แก่ จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น อัตราดอกเบี้ยต่ำ ค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ความคืบหน้าของสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน และการพัฒนาเชิงบวกในจีน ด้วยความกลัวที่ลดลง เราคาดว่านักลงทุนจะลดการถือเงินสด  ซึ่งเพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุดนับตั้งแต่การโจมตีของผู้ก่อการร้ายในเหตุการณ์ 911 ในไตรมาส 2/2565 


ตามรายงานของ Financial Times ความเสี่ยงที่สำคัญในครึ่งปีหลังคือการหยุดส่งก๊าซของรัสเซียให้กับยุโรปอย่างกะทันหัน อัตราเงินเฟ้อที่สูงอย่างมากจะบังคับให้เฟดมีท่าทีเชิงรุกมากขึ้น รวมถึงการชะลอการเปิดพรมแดนของจีนและการคงนโยบาย zero-COVID วิกฤตของหนี้และความไม่สงบทางสังคมในตลาดกลุ่มประเทศ emerging markets อาจกระทบต่อธุรกิจของบริษัทไทยบางบริษัท

ทั้งนี้ได้เคาะรูปการลงทุนทั้งหมด 5 รูปแบบ
- หุ้นปันผล  

KKP       ซื้อ    ราคาเป้าหมาย  90.00 บาท 

DTAC    ซื้อ     ราคาเป้าหมาย  58.43บาท
เราคาดว่าหุ้นปันผลจะออกมาดีในช่วงที่ตลาดปรับฐาน


-หุ้นความผันผวนต่ำ


BGRIM       ซื้อ    ราคาเป้าหมาย  61.50 บาท 

GPSC         ซื้อ    ราคาเป้าหมาย  83.50 บาท 

BH            ซื้อ    ราคาเป้าหมาย 181.00 บาท 

CPALL       ซื้อ    ราคาเป้าหมาย  73.60 บาท
หุ้นความผันผวนต่ำเป็นหุ้นที่ป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย



-หุ้นเติบโต 

BE8          ซื้อ      ราคาเป้าหมาย   48.56  บาท 

BBIK        ซื้อ       ราคาเป้าหมาย   73.82 บาท 

RBF         ซื้อ       ราคาเป้าหมาย   20.95 บาท 

SINGER    ซื้อ       ราคาเป้าหมาย  50.00 บาท
เราคาดว่า BE8, BBIK, RBF และ SINGER จะมีกำไรเติบโตเฉลี่ย 40-70% ในปี 2565-2566


-หุ้นเปิดประเทศ 

MTC          ซื้อ    ราคาเป้าหมาย 55.00 บาท 

PTG         ซื้อ    ราคาเป้าหมาย  17.00 บาท 

ANAN      ซื้อ    ราคาเป้าหมาย   1.48 บาท 

CENTEL   ซื้อ    ราคาเป้าหมาย   46.59 บาท

 
การกลับมาของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การกลับไปเรียนในโรงเรียน/ทำงานในสำนักงาน รายได้และค่าจ้างของภาคเกษตรที่สูงขึ้นจะช่วยกระตุ้นความต้องการเงินกู้ของ MTC ปริมาณการขายน้ำมันของ PTG ยอดขายของ ANAN และอัตราการเข้าพักและราคาห้องพักของ CENTEL


-การพัฒนาเชิงบวกในจีน


PSL    ซื้อ    ราคาเป้าหมาย  25.50 บาท 

JWD   ซื้อ    ราคาเป้าหมาย  18.00บาท
การกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งและมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนจะช่วยเพิ่มค่าระวางขนส่งของ PSL 


ที่มา  กสิกรไทย

ภาพประกอบ  เก็ตตี้ อิมเมจ 

ข่าวแนะนำ