TNN online คปภ.สั่งเพิกถอนใบอนุญาต "อาคเนย์ฯ-ไทยประกันภัย"

TNN ONLINE

Wealth

คปภ.สั่งเพิกถอนใบอนุญาต "อาคเนย์ฯ-ไทยประกันภัย"

คปภ.สั่งเพิกถอนใบอนุญาต อาคเนย์ฯ-ไทยประกันภัย

คปภ.สั่งเพิกถอนใบอนุญาต "อาคเนย์ฯ-ไทยประกันภัย" มีผลทันทีวันนี้ เหตุฐานะการเงินไม่มั่นคง มีหนี้สินเกินกว่าทรัพย์สิน โดยเหลือยอดเงินค้างจ่ายประกัน 17,878 ล้านบาท พร้อมออก 5 มาตรการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย

วันนี้ ( 1 เม.ย. 65 )นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)  เปิดเผยว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุกิจประกันวินาศภัยบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด(มหาชน) และบริษัท ไทยประกันภัย จำกัด(มหาชน) มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565  

สำหรับสาเหตุที่ต้องเพิกถอน เนื่องจากตรวจสอบพบว่าทั้ง 2 บริษัทมีฐานะการเงินไม่มั่นคง มีหนี้สินเกินกว่าทรัพย์สิน มีสินทรัพย์สภาพคล่องไม่เพียงพอสำหรับการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ทำให้ไม่สามารถมั่นใจได้ว่าบริษัทมีความสามารถในการชำระหนี้ ซึ่งทางคปภ. ได้ให้ทั้งสองบริษัทแก้ไขสภาพคล่องทางการเงิน แต่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของทั้งสองบริษัทปฏิเสธที่จะเพิ่มทุน คปภ.จึงเห็นว่าถ้าปล่อยไปจะเกิดความเสียหายต่อผู้เอาประกันภัยได้ จึงจำเป็นต้องเพิกถอนใบอนุญาต 

สำหรับบริษัทอาคเนย์ มีเบี้ยรับตรงปี 2562-2564 จำนวน 10,000 ล้านบาท เป็นประกันภัยโควิดร้อยละ 20 ส่วนบริษัทไทยประกันภัย มีเบี้ยประกันภัยรับตรง 2562-2564 จำนวน 2,000 ล้านบาท เป็นประกันภัยโควิดร้อยละ 30 โดยทั้งสองบริษัทเหลือยอดคุ้มครอง 1.17 ล้านกรรมธรรม์ ซึ่งส่วนมากเป็นประกันแบบเจอจ่ายจบ โดยมีเงินค้างจ่ายประกันรวม 17,878 ล้านบาท 

ทั้งนี้หนี้ในส่วนที่เหลือนั้น จะถูกโอนไปยังกองทุนประกันวินาศภัย ที่เป็นผู้ชำระบัญชีดูแล โดยผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยทุกประเภทขอรับคืนเบี้ยประกันภัยที่เหลือจากกองทุนประกันวินาศภัยตามระยะความคุ้มครองที่เหลือ ทั้งนี้ กองทุนประกันวินาศภัยยังอยู่ในการบริหารจัดการได้มีสภาพคล่อง 5,000-7,000 ล้านบาท

ส่วนมาตรการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย 5 มาตรการ ได้แก่ 1.บูรณาการทำงานร่วมกับภาคธุรกิจ และสนับสนุนการปฎิบัติงานกองทุนประกันวินาศภัย ในฐานะผู้ชำระบัญชี 2.สื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชน 3.จัดตั้งศูนย์ให้คำแนะนำและร้องเรียนทุกพื้นที่ทั่วประเทศ 4.กำหนดแนวทางในการยื่นขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้แต่ละประเภทของบริษัท 5.ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานของทั้ง 2 บริษัทที่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค

ภาพจาก : คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)

ข่าวแนะนำ