TNN online อานิสงส์โควิดดันตลาดบ้านแนวราบโตกระฉูดสวนทางคอนโดฯหด

TNN ONLINE

Wealth

อานิสงส์โควิดดันตลาดบ้านแนวราบโตกระฉูดสวนทางคอนโดฯหด

อานิสงส์โควิดดันตลาดบ้านแนวราบโตกระฉูดสวนทางคอนโดฯหด

"ศานิต" มองตลาดบ้านแนวราบมาแรงสวนทางคอนโดซบ หลังนักลงทุนชาวต่างชาติยังไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศได้จากพิษโควิด แนะรัฐอัดฉีดสภาพคล่องธุรกิจเอสเอ็มอีปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนวงเงิน 1 ล้านล้านบาท ประกาศเดินหน้าขยายการลงทุนโครงการร่วมกับพันธมิตรดันรายได้ปีนี้แตะ 2.83 หมื่นล้านบาท


นายศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้  เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทิศทางอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้บ้านแนวราบยังเติบโตสูงตามความต้องการที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากเกิดโควิด โดยเฉพาะบ้านลักชัวรี่เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนยังเติบโตต่อเนื่อง ส่วนตลาดคอนโดมิเนียมยังชะลอตัว เนื่องจากยังไม่มีสัญญาณว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับมา ดังนั้นทำให้ผู้ประกอบการเน้นกลุ่มลูกค้าในประเทศเป็นหลัก  อย่างไรก็ตาม ก่อนเกิดปัญหาโควิดตลาดคอนโดมิเนียมต่างชาติมีสัดส่วน 40% ในภาพรวม  แบ่งเป็นคนจีน 50% สัดส่วน 25% เป็นฮ่องกง สิงคโปร์ ที่เหลือ 25% เป็นประเทศอื่น ๆ


นอกจากนี้เห็นว่ารัฐควรใช้มาตรการทางการเงินเข้ามาช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจนอกเหนือจากมาตรการการคลังที่ผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น คนละครึ่งเฟส 4  ซึ่งเป็น การจ่ายเงินปลายทางคนใช้ก็จบ แต่ใช้นโยบายการเงินด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าไปธุรกิจขนาดเล็กและกลางคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ 3-4% เพื่อทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่ม และเศรษฐกิจหมุนต่อไปได้คาดว่าต้องใช้วงเงินประมาณ 1 ล้านล้านบาท เหมือนกับญี่ปุ่นและยุโรปที่ทำแล้วส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ



สำหรับภาพรวมธุรกิจของกลุ่มบริษัททั้งอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมคาดว่าจะกลับมาฟื้นตัว คาดว่ารายได้รวมปีนี้อยู่ที่ 28,300 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 12,000 ล้านบาท แกรนด์ แอสเสทฯ 2,800 ล้านบาท รายได้จากการขายที่ดินและสิทธิการเช่า ขายการลงทุนในโรงแรมและจัดตั้งกองทรัสต์ 8,500 ล้านบาท และรายได้จากโครงการร่วมทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 5,000 ล้านบาท


นอกจากนี้เน้นการจัดการโครงสร้างทางการเงินให้แข็งแกร่ง โดยมีเป้าหมายที่จะลดภาระหนี้ลงอีก หลังจากที่สามารถลดระดับหนี้สินสุทธิต่อทุนมาอย่างต่อเนื่อง จาก 2.1 ในปี 2563 เหลือ 1.7 ในปี 2564 และตั้งเป้าให้อยู่ที่ 1.2 ในปีนี้ 


ส่วนกลยุทธ์สำคัญคือการเติบโตของรายได้จากการร่วมทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กับพันธมิตรจากต่างประเทศทั้ง 3 ราย ได้แก่ ฮ่องกงแลนด์,  ซูมิโตโม ฟอร์เรสทรี และ เซกิซุย เคมิคอล ซึ่งคาดว่าปีนี้จะทำรายได้รวมถึง 5,000 ล้านบาท และยังมีการร่วมทุนในธุรกิจถุงมือยาง ที่จะสร้างรายได้อีก 2,152 ล้านบาท บวกกับการขายที่ดินและจัดตั้งกองทรัสต์ จะทำให้กลุ่มบริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น 


นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้  เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า   วางเป้ายอดขาย 18,000 ล้านบาท จากโครงการแนวราบ 10,500 ล้านบาท โครงการคอนโดมิเนียมทั้งในประเทศและประเทศญี่ปุ่น 2,500 ล้านบาท และโครงการร่วมทุน 5,000 ล้านบาท 


ส่วนของ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ณ สิ้นปีที่ผ่านมา มียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Presale Backlog) 2,126 ล้านบาท ปีนี้จะมีการเปิด 15 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 26,210 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว 12,845 ล้านบาท บ้านแฝดและทาวน์โฮม 1,930 ล้านบาท และโครงการร่วมทุน 11,435 ล้านบาท 


โครงการเปิดใหม่ที่ถือเป็นไฮไลท์ในปีนี้ ได้แก่ เลค เลเจ้นด์ บางนา-สุวรรณภูมิ  ซึ่งร่วมทุนกับ ฮ่องกงแลนด์ มูลค่าโครงการ 6,275 ล้านบาท ด้วยคอนเซ็ปท์บ้านบนเนินติดทะเลสาบ พร้อมการเปิดตัวบ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ จับเซ็กเมนต์ใหม่ในกลุ่มตลาดบน ในทำเลพหลโยธิน สุขุมวิท 77-สุวรรณภูมิ และ รัตนาธิเบศร์ นอกจากนี้ การเปิดให้บริการของรถไฟฟ้า 2 สายใหม่ คือ สายสีเหลืองและสีชมพู รวมถึงการขยายตัวของทำเลราชพฤกษ์ ที่จะมีห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่ถึง 3 แห่ง ยังจะส่งผลบวกต่อโครงการของบริษัทที่มีอยู่ในทำเลดังกล่าวด้วย 


นายวิทวัส วิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า   ธุรกิจปีนี้จะเติบโตทั้งธุรกิจโรงแรมที่คาดว่าจะฟื้นตัวจากมาตรการเปิดประเทศ ส่วนรายได้ปีนี้ จะโตแบบก้าวกระโดด ตั้งเป้าไว้ 5,500 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 1,000 ล้านบาท ธุรกิจโรงแรม 1,800 ล้านบาท และจากโครงการร่วมทุน 2,700 ล้านบาท รายได้หลักจะมาจาก “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” โครงการร่วมทุนที่ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 2 ของปีนี้  ซึ่งมียอดขายรอรับรู้รายได้อยู่แล้ว 2,017 ล้านบาท  


สำหรับเป้าขายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ วางไว้ที่ 2,000 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 400 ล้านบาท วิลล่าในจังหวัดระยอง 600 ล้านบาท และโครงการร่วมทุนอีก 1,000 ล้านบาท ธุรกิจโรงแรม วางเป้ารายได้ที่ 1,800 ล้านบาท 


โดยเชื่อมั่นว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง คาดโรงแรมในกลุ่มบริษัทจะมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีที่ระดับสูงกว่า 50% โดยตลาดชาวไทยท่องเที่ยวในประเทศ ยังคงมีความสำคัญอย่างมาก ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นจากมาตรการเปิดประเทศ เนื่องจากหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยเริ่มมีมาตรการผ่อนปรนเรื่องการเดินทางมากขึ้น ตัวอย่างเช่น โครงการ Test & Go ที่เปิดโอกาสให้นักเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องมีการกักตัว 


ส่วนธุรกิจผลิตถุงมือยาง ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2564 โดยติดตั้งเครื่องจักร 1 และ 2 พร้อมเดินเครื่องและบันทึกรายได้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา คาดว่าปีนี้จะมีรายได้ 2,152 ล้านบาท บริษัทยังได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ และกำลังทยอยติดตั้งสายการผลิตอื่นๆ ต่อไปให้ครบ ซึ่งจะทำให้สามารถรับรู้รายได้จากทั้ง 16 สายการผลิตภายในปีนี้


ที่มา บริษัท พร็อพเพอร์ตี้  เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) 

ภาพประกอบบริษัท พร็อพเพอร์ตี้  เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) 




ข่าวแนะนำ