TNN online จากปากอาสาฯ-ทหารยูเครน ชีวิตที่พลิกผัน...จากสงคราม

TNN ONLINE

วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน

จากปากอาสาฯ-ทหารยูเครน ชีวิตที่พลิกผัน...จากสงคราม

จากปากอาสาฯ-ทหารยูเครน ชีวิตที่พลิกผัน...จากสงคราม

ชีวิตที่พลิกผัน...จากสงคราม สัมภาษณ์สดอาสาสมัคร-ทหารยูเครนถึงชีวิตกว่า 1 เดือนใต้สมรภูมิรบ

ชาวยูเครนจากกรุงเคียฟ เมืองคาร์คิฟ และมารีอูโปล ให้สัมภาษณ์สดสื่อไทย ผ่านระบบออนไลน์ บอกเล่าถึงชีวิตที่เปลี่ยนไป ‘จากหน้ามือเป็นหลังมือ’ นับแต่รัสเซียส่งทหารบุกยูเครน

“ฉันเป็นคุณแม่ ฉันเป็นคุณยาย”

วันนี้ (31 มีนาคม) สถานเอกอัครราชทูตยูเครน ร่วมกับชุมชนชาวยูเครนในไทย ได้เปิดโอกาสให้สื่อไทย สัมภาษณ์สดชาวยูเครนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ 

“ฉันอยู่ที่ใจกลางเมืองคาร์คิฟ ฉันจะเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเมืองของเรา” นาตาเลีย ยาคอฟเลวา อาสาสมัครวัยชรา ในเมืองคาร์คิฟ ทักทายสื่อมวลชน ผ่านระบบ Zoom 

เธอผายมือไปให้กล้องเห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเมืองของเธอ ก่อนพูดว่า “อาคารที่คุณเห็นอยู่นี้ เป็นมหาวิทยาลัยของเรา เป็นอาคารคณะเศรษฐศาสตร์ ด้านหลังนั้นคือโบสถ์สำคัญของเรา รัสเซียทิ้งระเบิดทุกวันจนฉันต้องไปหลุมหลบภัย 5 ครั้งต่อวัน”

นาตาเลีย มีลูกและหลานหลายคน แต่ช่วงเดือนที่ผ่านมา ต้องอาศัยอยู่ในหลุมหลบภัยเป็นส่วนใหญ่ และออกมาช่วยเดินแจกจ่ายสิ่งอุปโภคบริโภค ให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบทั่วเมือง 

เธอเล่าว่า ความสุขในทุกวันนี้ คือการได้คุยกับลูกและหลาน และทราบว่าพวกเขายังปลอดภัย “ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าพวกเขามีชีวิต ฉันก็มีความสุขแล้วในตอนนี้ เราไม่ได้มีชีวิตที่ปกติ”

เมื่อถามว่าคิดอย่างไรต่อการประกาศลดปฏิบัติการทางทหารและเริ่มถอยทัพออกจากพื้นที่ของกองทัพรัสเซีย เธอระบุว่า ไม่เชื่อใจรัสเซียว่าจะทำจริง

 “ผมหมดความกลัวแล้ว”

นี่คือคำกล่าวของ โอเลกซีย์ วาซิเลฟสกีย์ ทหารอาสาในกรุงเคียฟ ที่พูดภาษาอังกฤษคล่องแคล่ว เพราะเคยใช้ชีวิตในสหรัฐฯ และหลายเมืองในยุโรป แต่ในวันที่รัสเซียส่งทหารบุกยูเครน เขาบอกว่า “ผมไม่เคยออกจากกรุงเคียฟอีกเลยนับแต่นั้น”

“พ่อแม่โทรศัพท์ถามว่า จะอพยพไปอยู่กับพวกเขา (ในต่างประเทศไหม) แต่ผมบอกไม่มีทาง” วาซิเลฟสกีย์ อธิบายเหตุผลว่า เขาทนไม่ได้ที่จะปล่อยให้เรื่องเศร้าเกิดขึ้นต่อไป โดยไม่ทำอะไร ซึ่งเป็นเหตุผลให้เขาเข้าร่วมในกองกำลังพิทักษ์ดินแดน ในฐานะทหารอาสา

เขาเล่าต่อว่า ตอนนี้ พื้นที่หลายจุดของภูมิภาคเคียฟ กลายเป็นสมรภูมิ เกิดการสู้รบหนักระหว่างกองทัพรัสเซียและยูเครนอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ขาดแคลน คือ อาวุธ จำพวกเสื้อเกราะกันกระสุน 

วาซิเลฟสกีย์ ที่ยังอยู่ในช่วงอายุ 20 ต้น ๆ เล่าว่า ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปเมื่อไม่กี่วันก่อน “ผมได้รับสายว่า เพื่อนของผมเสียชีวิตที่แนวหน้า ไม่ไกลจากกรุงเคียฟ”

“ตอนนี้ ผมจะพยายามทำให้ เราเข้าใกล้ชัยชนะให้ได้มากที่สุด เพราะผมไม่อยากได้รับสายแบบที่ผมได้รับเมื่อ 5 วันก่อนอีกแล้ว”

“คุณกลับบ้านได้นะ แต่ผมจะยิงคุณ”

เมืองที่เสียหายที่สุดในยูเครนเวลานี้ จากวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น คือ เมืองมารีอูโปล ทางตอนใต้ของประเทศ และหนึ่งในชาวยูเครนที่สื่อไทยได้มีโอกาสพูดคุย คือ แพทย์ในเมืองมารีอูโปล ที่เล่าถึงประสบการณ์ในช่วงที่โรงพยาบาลถูกกองทัพรัสเซียยึดครอง

“ช่วงที่รัสเซียยึดโรงพยาบาลของเรา ช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เราช่วยเหลือคนไข้ไม่ได้เลย เราได้แต่นั่งในห้องผ่าตัดที่พังทลาย” เอลิซาร์ แกรนคอฟ แพทย์ในเมืองมารีอูโปล กล่าว

“เรากลัวที่จะออกไปข้างนอก รัสเซียยึดโรงพยาบาลของเรา และยิงถล่มเมืองจากโรงพยาบาล” แม้แต่เวลานี้ ที่รัสเซียประกาศหยุดยิง เพื่อเปิดเส้นทางอพยพ เขาก็ยังบอกว่า เสียงไซเรนยังดังไม่หยุด 

สื่อมวลชนจึงถามว่า เขาหนีออกมาจากโรงพยาบาลที่ถูกรัสเซียควบคุมได้อย่างไร เขาตอบสั้น ๆ เพียงว่า “ผมวิ่งหนีออกมา ช่วงที่ทหารรัสเซียมองไม่เห็น”

แต่ก่อนหน้านั้น เขาเคยลองขอทหารรัสเซียเพื่อกลับบ้านไปเจอหน้าครอบครัวแล้ว “ผมอยากกลับบ้าน จากโรงพยาบาล ผมอยากเจอหน้าครอบครัว ผมถามทหารรัสเซีย ‘ผมกลับบ้านได้ไหม’ เขาตอบว่า ‘ได้นะ แต่ผมจะยิงคุณนะ’ ผมเลยพูดอะไรไม่ออก” 

สำหรับการสัมภาษณ์สดชาวยูเครนที่สถานทูตยูเครนจัดให้สื่อไทยนั้น ใช้ระยะเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง และพูดคุยกับชาวยูเครนอีกหลายคนนอกจาก 3 คนในบทความนี้ ซึ่งทุกคนล้วนแต่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ชีวิตพวกเขาเปลี่ยนไปนับแต่รัสเซียส่งทหารเข้ามาในยูเครน และทุกวันนี้ พยายามช่วยเหลือผู้คนเท่าที่จะทำได้

จากปากอาสาฯ-ทหารยูเครน ชีวิตที่พลิกผัน...จากสงคราม

เกาะติดสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ได้ที่นี่

https://www.tnnthailand.com/news/ukraine-russia-war


ภาพจาก Reuters

ข่าวที่เกี่ยวข้อง