TNN online การค้าจีน-รัสเซีย พุ่งสูง กลางวิกฤตขัดแย้ง ‘รัสเซีย-ยูเครน’

TNN ONLINE

วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน

การค้าจีน-รัสเซีย พุ่งสูง กลางวิกฤตขัดแย้ง ‘รัสเซีย-ยูเครน’

การค้าจีน-รัสเซีย พุ่งสูง กลางวิกฤตขัดแย้ง ‘รัสเซีย-ยูเครน’

การค้าจีน-รัสเซีย เติบโตสูงสุดในรอบ 12 ปี ท่ามกลางวิกฤตยูเครนและภาพรวมการส่งออกที่ชะลอตัว

สำนักข่าว SCMP รายงานเกี่ยวกับการค้าของรัสเซียและจีน หลังเติบโตสูงสุดในรอบสิบกว่าปี ขณะที่จีนยังคงสงวนท่าทีในวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน แม้นานาประเทศประกาศคว่ำบาตร 


---การค้าจีน-รัสเซียเติบโตกลางวิกฤต---


การค้าทวิภาคีระหว่างจีนกับรัสเซียเพิ่มขึ้น 38.5% จากปี 2021 เป็น 26.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 8.7 แสนล้านบาทซึ่งเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดในช่วงสองเดือนแรกของปี นับตั้งแต่ปี 2010


นักวิเคราะห์กล่าวว่า การค้าระหว่างรัสเซียและจีนเพิ่มขึ้นในช่วงต้นปี แต่การส่งออกโดยรวมกลับชะลอตัว ท่ามกลางปัญหาต่าง  ซึ่งเพิ่มแรงกดดันให้จีน ต้องผลักดันนโยบายเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจครั้งใหม่


การส่งออกโดยรวมในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ ขยายตัวจากปีก่อนเพียง 16.3% เป็น 544.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1.79 หมื่นล้านล้านบาทแม้จะโตเกินความคาดหมาย แต่ลดลงจากในเดือนธันวาคมถึง 29.9%


ทั้งนี้ การส่งออกเป็นตัวขับเคลื่อนหลักสำหรับเศรษฐกิจจีน และมีบทบาทในการบรรลุเป้าหมายผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ที่ “ประมาณ 5.5%” ซึ่งกำหนดโดยนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง เมื่อวันเสาร์ (5 มีนาคมที่ผ่านมา


---ส่งออกจีนชะลอตัว---


การส่งออกที่ชะลอตัวในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ เป็นเรื่องน่าตกใจ เนื่องจากในปีที่แล้วการส่งออกเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อทั้งการลงทุนและการบริโภคซบเซา” จาง จือเว่ย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Pinpoint Asset Management กล่าว


ตัวเลขดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าการนำเข้าโดยรวมของจีนเติบโตขึ้น 15.5% ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ปีก่อน เป็น 428.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1.41 ล้านล้านบาทแต่ลดลงจากในเดือนธันวาคม 19.5%


การนำเข้าจากรัสเซียมีมูลค่าถึง 13.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 4.54 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้น 35.8% โดยเป็นอันดับ 2 รองจากอินโดนีเซียคู่ค้าหลักของจีน ขณะที่ มูลค้าการส่งออกของจีนไปยังรัสเซียยังเพิ่มขึ้น 41.5% ในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ เป็น 12.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 4.15 แสนล้านบาทซึ่งสูงที่สุดในบรรดาคู่ค้ารายใหญ่


ทั้งนี้ การเติบโตดังกล่าวตรงกันข้ามกับการนำเข้าสินค้าจากออสเตรเลียที่ลดลง 2.3% และการส่งออกไปยังสหภาพยุโรปที่ลดลง 0.2%


---ทั่วโลกจับตาสัมพันธ์จีน-รัสเซีย---


การค้าระหว่างจีนกับรัสเซียกำลังได้รับความสนใจ เนื่องจากชาติตะวันตกเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรเป็นสองเท่า หลังรัสเซียเริ่มปฏิบัติการทางทหารในยูเครน


จีนละเว้นจากการเลือกข้างท่ามกลางวิกฤตที่ยังไม่คลี่คลาย แต่ได้กล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า จะรักษาความสัมพันธ์ทางการค้าตามปกติ กับทั้งรัสเซียและยูเครน


ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน จะทำให้เกิดความไม่แน่นอนต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโลกมากขึ้นกว่าเดิม” เหลียน เว่ยเหลียง รองผู้อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ กล่าวเมื่อวันจันทร์ (7 มีนาคมที่ผ่านมา


ทั้งรัสเซียและยูเครนต่างร่วมโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) จีนจะยังคงทำงานร่วมกับรัสเซียและยูเครน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงของโครงการนี้ ด้วยจิตวิญญาณแห่งความร่วมมืออย่างสันติ การเปิดกว้างและทั่วถึง รวมถึงการเรียนรู้และผลประโยชน์ร่วมกัน


นายกรัฐมนตรีหลี่ กล่าวเมื่อวันเสาร์ (5 มีนาคมว่า ในปีนี้จีนวางแผนที่จะรักษาเสถียรภาพการค้าต่างประเทศและปรับปรุงคุณภาพ เขายอมรับด้วยว่าความท้าทายภายนอก รวมถึงโควิด-19 กระบวนการฟื้นฟูทั่วโลกโดยรวม และการขึ้นราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะรุนแรงขึ้น


---วิกฤตยูเครนกระทบทุกภาคส่วน---


หลี่ ฉีหลิน นักวิเคราะห์จาก Hongta Securities กล่าวว่า แม้จะฟื้นตัวได้ไม่นาน แต่แนวโน้มการส่งออกของจีน อาจได้รับผลกระทบจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ที่เกิดจากวิกฤตในยูเครน รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในต่างประเทศ ท่ามกลางความเข้มงวดของนโยบายการเงินของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ


ด้าน ไอริน ซิน นักเศรษฐศาสตร์จาก Greater China ที่ HSBC เตือนว่า แผนของสหรัฐฯ และยุโรป อาจขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงจากสินค้าไปสู่การใช้บริการ


คาดว่าการส่งออกจะยังคงเติบโตในเชิงบวก แม้ในปีนี้จะอ่อนตัวลงจากการฟื้นตัวของโลกอย่างค่อยเป็นค่อยไป” เธอกล่าว “ด้วยกระแสลมภายในประเทศที่ยังคงดำเนินอยู่ การส่งออกที่เพิ่มขึ้นจะช่วยบรรเทาแรงกดดันจากการชะลอตัว


โมเมนตัมการส่งออกอาจอ่อนตัวลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากความต้องการทั่วโลกหมุนเวียนไปสู่การบริการมากกว่าสินค้า ซึ่งหมายความว่า ผู้กำหนดนโยบายจะต้องดำเนินการกระตุ้นทั้งด้านการคลังและการเงิน เพื่อช่วยให้การเติบโตในประเทศมีเสถียรภาพ เนื่องจากการสนับสนุนภายนอกอาจลดลง” ซิน กล่าว

————

แปล-เรียบเรียงพัชรี จันทร์แรม

ภาพ: Reuters


ข่าวที่เกี่ยวข้อง