บริษัท HARDT รับทุน 15 ล้านยูโรพัฒนาเครือข่ายระบบขนส่ง Hyperloop ในทวีปยุโรป

เทคโนโลยี Hyperloop การนำระบบการเคลื่อนที่ด้วยพลังแม่เหล็กไฟฟ้าไปวิ่งในอุโมงค์สุญญากาศทำให้สามารถเร่งความเร็วได้มากกว่า 1,200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

บริษัท HARDT บริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี Hyperloop ในประเทศเนเธอร์แลนด์ได้รับเงินทุน 15 ล้านยูโรหรือประมาณ 578 ล้านบาท จากคณะกรรมาธิการยุโรปเพื่อศึกษาการพัฒนาโครงสร้างระบบขนส่ง Hyperloop ให้เกิดขึ้นจริงในทวีปยุโรป รูปแบบการขนส่งความเร็วสูงที่สามารถขนส่งผู้โดยสารและสินค้าโดยใช้พลังงานสะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นับเป็นความเคลื่อนไหวสำคัญอีกครั้งของวงการเทคโนโลยี Hyperloop

ปัจจุบันบริษัท HARDT อยู่ในระหว่างการก่อสร้างศูนย์พัฒนาเทคโนโลยี Hyperloop บริเวณเมืองโกรนิงเกน ประเทศเนเธอร์แลน พื้นที่บริเวณศูนย์พัฒนาเทคโนโลยี Hyperloop แห่งนี้จะถูกใช้สร้างต้นแบบ Hyperloop ท่อสุญญากาศความหลายร้อยเมตรเพื่อสดสอบความเร็วของ Hyperloop ควบคู่ไปกับการให้ความรู้กับนักศึกษา ประชาชนทั่วไป รวมไปถึงนักลงทุนที่ให้ความสนใจเทคโนโลยี Hyperloop

ก่อนหน้านี้ในปี 2019-2020 รัฐบาลประเทศเนเธอร์แลนด์ได้มอบเงินทุนจำนวนหนึ่งให้กับบริษัท HARDT เพื่อศึกษาการพัฒนาโครงการระบบขนส่ง Hyperloop เชื่อมต่อกรุงอัมสเตอร์ดัมและเมืองแฟรงค์เฟิร์ตระยะทาง 438 กิโลเมตร เปลี่ยนการเดินทางหลายชั่วโมงให้เหลือเพียง 30 นาที คาดว่าจะใช้งบประมาณในการก่อสร้างโครงการทั้งหมด 1,658 ล้านยูโรหรือประมาณ 64,000 ล้านบาท

บริษัท HARDT ก่อตั้งโดยกลุ่มนักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ในประเทศเนเธอร์แลนด์ที่เข้าร่วมแข่งขันพัฒนา Hyperloop ที่จัดโดยบริษัท SpaceX เมื่อปี 2017 โดยได้รับการสนับจากกลุ่มบริษัท Royal BAM Group , การรถไฟเนเธอร์แลนด์ Dutch Railways, มหาวิทยาลัย Delft University of Technology , UNIIQ และสถาบันนวัตกรรมและเทคโนโลยีแห่งยุโรป

แนวคิดเทคโนโลยี Hyperloop สมัยใหม่ถูกนำเสนอครั้งแรกโดยอีลอน มัสก์และทีมงานวิศวกรของบริษัท SpaceX ในปี 2013 แนวคิดที่ถูกนำเสนอถูกเรียกว่า Hyperloop Alpha โดยได้ทำการเปิดให้บริษัทเอกชนรายอื่น ๆ รวมถึงผู้สนใจเทคโนโลยี Hyperloop จากทั่วโลกสามารถดาวน์โหลดนำไปพัฒนาต่อยอดได้โดยไม่คิดมูลค่า ปัจจุบันเทคโนโลยี Hyperloop ถูกพัฒนาต่อยอดขึ้นหลายรูปแบบแต่แนวคิดหลัก ๆ คือ การนำระบบการเคลื่อนที่ด้วยพลังแม่เหล็กไฟฟ้าไปวิ่งในอุโมงค์สุญญากาศทำให้สามารถเร่งความเร็วได้มากกว่า 1,200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร็วกว่ารถไฟความเร็วสูงและเครื่องบินโดยสารปกติทั่วไป