'ทรู แบงค็อก' 3 นัด 3 ชัยชนะ 9 คะแนนเต็ม ศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด อยู่ในกลุ่มเอฟ ประกอบไปด้วยทีมอย่าง ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส จากเกาหลีใต้, คิดฉี เอสซี จากฮ่องกง และ ไลอ้อน ซิตี้ เซลเลอร์ส จากสิงคโปร์

สำหรับเกมแรก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด บุกไปเยือน ไลอ้อน ซิตี้ เซลเลอร์ส และเก็บ 3 ประวัติศาสตร์กลับเมืองไทยมาได้ โดยได้ เอเวอร์ตัน กอนคาเวซ และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ทำคนละประตูพา ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด รัวครึ่งหลัง แซงเชือด ไลออน ซิตี้ เซเลอร์ส ถึงถิ่น สุดมันส์ 2-1 ทำให้ "แข้งเทพ" ซิวสามแต้มประวัติศาสตร์ ประเดิมศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2023/24 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ

ก่อนการแข่งขันจะเริ่มต้น "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน กุนซือของสโมสรทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ตั้งเป้าหมายอีกแบบหนึ่งเอาไว้ แต่พอผ่านไปเกมแรกเก็บชัยชนะประวัติศาสตร์มาได้สำเร็จ โค้ชแบนขอเปลี่ยนเป้าหมายขึ้นมาทันที เพื่อต้องการพาทีมผ่านเข้ารอบน็อคเอ้าท์ ACL ให้จงได้

ทางด้าน "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน กุนซือของสโมสรทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เผยหลังเก็บชัยชนะในเกมนี้ได้ว่า

"เราทำการบ้านมาว่าคู่แข่งเขาน่าจะวางระบบการเล่นมาต่างจากในลีก คือระบบกองหลัง 5 ตัว ซึ่งก็ตรงกัน แต่เราก็ไม่ได้เปิดเกมแลกมากในครึ่งแรก ทำให้ดูอึดอัด รวมถึงการปรับตัวกับการเล่นสนามหญ้าเทียมค่อนข้างยาก เพราะเวลาเราเข้าทำก็มีโอกาสเสียบอลง่ายกว่าเดิมจากสภาพพื้นสนาม ทำให้เข้าทางเขาที่รอดักจังหวะสวนกลับ ซึ่งครึ่งหลังมาเราก็พยายามปรับตัวแล้วกลับมาได้ ถือเป็น 3 แต้มประวัติศาสตร์ของสโมสร ทำให้ทุกคนแฮปปี้"

"ส่วนเป้าหมายเราเปลี่ยนจากเดิมที่วางแค่ว่ามาเอาประสบการณ์ แต่พอเรารู้ผลจับสลากก็มองว่าเรามีโอกาสที่จะสู้เพื่อเข้ารอบ ดังนั้นเราก็จะพยายามเก็บแต้มให้ได้มากที่สุดทั้งเหย้าและเยือน ก็ต้องมาช่วยกันในทีมที่จะวางแผนกับการลงเล่นในหลายรายการ เพื่อให้นักเตะมีสภาพร่างกายที่พร้อมที่สุด"

หลังจากนั้น เกมที่สอง "แข้งเทพ" ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ต้องพบกับศึกหนักในการเปิดบ้านรับการมาเยือนของ "กรีน วอริเออร์ส หรือ นักรบสีเขียว" ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ จากเคลีกเกาหลีใต้ ทีมจ่าฝูงของกลุ่ม

เกมนี้ ธชตวัน ศรีปาน กุนซือ ทรู แบงค็อก วาง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ นำทัพ พร้อมด้วย ปกเกล้า อนันต์ ส่วนตัวรุก วิลเล่น โมต้า จับคู่กับ มามูด ดาฮัดดา ด้าน ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ ภายใต้การนำทัพของ แดน เปเตสคูร์ อดีตฟูลแบ็กเชลซีและตำนานโรมาเนียหัวทองที่ทำหน้าที่คุมทัพส่งทีเด็ดอย่าง ฮัน คโย วอน , นานา บัวเต็ง และ กุสตาโว ศูนย์หน้าบราซิเลี่ยนลงเป็น 11 ตัวแรก

ผลปรากฎว่า ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เปิดบ้านแซงดับ ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ หวุดหวิด 3-2 จากการทำประตูของ รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก และลูกที่สองเป็นการทำเข้าประตูตัวเองของ อัน ฮยุน บอม ส่วนลูกที่สามประตูชัย ได้ประตูจาก วิลเล่น โมต้า ส่งผลให้ "แข้งเทพ" คว้าชัย 2 นัดติด มี 6 คะแนน ยึดจ่าฝูงกลุ่ม เอฟ ขณะที่ ชนบุค ฮุนได มี 3 แต้ม รั้งอันดับ 3 ในเวลานั้น

หลังจบเกม "โค้ชแบน"ธชตวัน ศรีปาน กุนซือ บอกที่ ทรู แบงค็อก โค่น แชมป์เอซีแอล 2 สมัย อย่าง ชุนบุก เป็นเพราะทรานซิชั่นที่ดี แถมนักเตะมีวินัยเยี่ยมสุดๆ ย้ำชัดมาครั้งนี้ไม่ได้มาเก็บประสบการณ์ เพราะส่วนตัวมีประสบการณ์เอซีแอลมาแล้วที่เมืองทอง หวังนำมาใช้กับทรู แบงค็อก เรื่องเทคนิคอลที่จะเล่นในแต่ละเกม แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือหัวใจและความคิด ก่อนเกมจะแข่งมีแว่บไปดูบุรีรัมย์เยือนโคฟุ บอกบุรีรัมย์แพ้เพราะโชคชะตา แต่อยากให้แฟนบอลไทยร่วมเชียร์ทั้ง 3 สโมสรไทย เพราะนี่คือชื่อเสียงของประเทศไทย

"แม้ว่าชุนบุกจะมาแบบไม่ค่อยพร้อม เพราะมีผู้เล่นติดทีมชาติเอเชียนเกมส์และตัวบาดเจ็บ แต่เราไม่ประมาทเขา เล่นอย่างมีวินัย แต่ช่วงแรกเกมจะเอียงไปทางชุนบุก จากการที่เขาได้ประตูนำไปแล้ว สุดท้ายก็มีจุดเปลี่ยนที่ รุ่งรัฐ สามารถตีเสมอได้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ก็ทำให้โมเมนตั้มมาทางเรา และครึ่งหลังก็กลับมาเล่นด้วยความมั่นใจ"

"ถึงแม้จะโดนกดดันจากชุนบุก แต่เราก็มีทรานซิชั่นที่ดี เราจะได้ประตูจากจังหวะทรานซิชั่นค่อนข้างเยอะ ต้องชื่นชมนักเตะ ที่ชนะนัดนี้ได้เพราะการมีวินัยของพวกเขา"

"คิตฉี ก็อันตราย หรือแม้ว่า ซิตี้ ไลออนส์ ที่เราจะเจอที่บ้านเราอีกอัน แต่เราก็ประมาทไม่ได้ แม้ว่าทุกคนจะมองว่านี่เป็นครั้งแรกที่ทีมได้เล่นรอบแบ่งกลุ่ม หลายคนอาจจะหาประสบการณ์ในถ้วยเอเชีย แต่สำหรับผมไม่ใช่ ผมบอกทุกคนว่า พี่มีประสบการณ์แล้ว และจะเอาประสบการณ์ที่ทำกับเมืองทองมาใช้กับทรู แบงค็อก โดยเฉพาะการวางเทคนิคอลที่จะใช้เล่นในแต่ละเกม ซึ่งจริงๆเทคนิคอลเป็นเรื่องเล็กมาก แต่หัวจิตหัวใจสำคัญมากกว่า รวมถึงสมองและความคิดรวมถึงทัศนคติที่ทำให้นักฟุตบอลทุกคนมีวินัยในเกมการเล่น เพื่อที่จะให้นักฟุตบอลของเราต่อกรกับผู้เล่นในระดับเกาหลีหรือญี่ปุ่นหรืออะไรก็ตามมาให้ได้ใน 90 นาที อันนี้ผมมองว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่า"

"3 สโมสรไทยลีกที่แข่งเอซีแอล ก็คือตัวแทนของไทย จริงๆก็เป็นตัวแทนของทุกๆคน และอยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้กับทั้ง 3 ทีมเพื่อช่วยกันสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย ส่วนตัวก็มีโอกาสได้ดูบุรีรัมย์ที่ไปเยือนโคฟุที่ญี่ปุ่น เท่าที่ดู บุรีรัมย์ ก็เล่นดีกว่า แข็งกว่า แต่การแพ้ก็อาจจะเป็นโชคชะตามากกว่า"

ส่วนเกมที่สาม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ต้องบินลัดฟ้าไปที่ฮ่องกง เพื่อลงสนามพบกับ คิตฉี เอสซี ที่ยังไม่มีแต้ม ในรอบแบ่งกลุ่มนี้ โดยเกมนี้ ทัพแข้งเทพ ถึงแม้จะโดนออกนำไปก่อนจากจังหวะผิดพลาดของ ปฏิวัติ คำไหม ผู้รักษาประตู แต่สุดท้ายก็อาศัยการครองเกม และทำเกมรุกใส่เจ้าบ้าน จนทำให้ได้ประตูตีเสมอจาก รุ่งรัตน์ ภูมิจันทร์ทึก ช่วยยิงตีเสมอให้กับทีม และมาได้ลูกจุดโทษจาก วิลเล่น โมต้า ยิงประตูชัยพาทีมคว้าชัย 3 นัดติดต่อกัน เก็บ 9 แต้มเต็ม รั้งจ่าฝูงของกลุ่มเอฟ ได้สำเร็จ

หลังจากจบไป 3 นัด เก็บได้ 9 คะแนนเต็ม ยังมีเรื่องที่น่าเป็นห่วงคืออาการบาดเจ็บของ "นิว" ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บจากการปะทะกับ ตัน ชุน ล็อค ผู้เล่นของคิตฉี เอสซี

อย่างไรก็ตาม ก็มีเรื่องที่น่ายินดีสำหรับจบการแข่งขันไป 3 นัด ที่เรียกว่ามาได้ครึ่งทางสำหรับรอบแบ่งกลุ่ม ทัพแข้งเทพ ยิงไปได้ 7 ประตู และเสียไป 4 ประตู โดย 7 ประตู ได้มากจากผู้เล่นของไทยถึง 2 คน ประกอบไปด้วย รุ่งรัตน์ ภูมิจันทร์ทึก 2 ประตู, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ 1 ประตู และผู้เล่นต่างชาติของทีมอย่าง วิลเล่น โมต้า 2 ประตู และ เอเวอร์ตัน กอนคาเวซ 1 ประตู โดยอีก 1 ประตูมาจากการทำเข้าประตูตัวเองของคู่แข่ง

ทั้งนี้ เส้นทางในการเข้ารอบของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ดูแล้วเป็นอะไรสดใสเป็นอย่างมาก ที่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด จะกลายเป็นทีมที่ 4 ของไทย และครั้งที่ 5 (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เคยเข้ารอบไป 2 ครั้ง) ที่จะเข้าสู่รอบน็อคเอาต์ในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก

ที่มาภาพ : True Bangkok United