‘ทนายเกิดผล’เผยแม่แตงโมเรียกค่าสินไหมตามใจไม่ได้
‘ทนายเกิดผล’เผยแม่แตงโมเรียกค่าสินไหมตามใจตัวเองไม่ได้แนะควรมีทนายความ
วันนี้ ( 6 มี.ค. 65 )ทนายเกิดผล แก้วเกิด โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่าการเรียกค่าสินไหมทดแทน ในกรณีที่มีผู้อื่นทำให้ลูกตาย แม่สามารถเรียกค่าทดแทนตามกฎหมายได้ เท่าที่มีกฎหมายบัญญัติไว้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เท่านั้น ไม่ใช่ว่าอยากเรียกเท่าไหร่ตามอำเภอใจ โดยไม่มีกฎหมายรองรับได้ทุกอย่างนะครับ
ในกรณีที่บุตรเสียชีวิตทันที โดยไม่มีการรักษาพยาบาลก่อนเสียชีวิต กฎหมายให้เรียกค่าสินไหมทดแทน ได้ 2 กรณี คือ
1.ค่าปลงศพ หรือค่าจัดการงานศพ
2.ค่าขาดไร้อุปการะเลี้ยงดู
นอกจากนั้นไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้
ต่างจากกรณี ผู้ถูกละเมิด บาดเจ็บไม่ถึงตาย แต่ขาดรายได้ ขาดประโยชน์จากการทำงาน แบบนี้สามารถเรียกได้ เช่น แตงโม อายุ 30 มีรายได้เดือนละ 150,000 บาท ร่างกายแข็งแรงไม่มีโรคภัยประจำตัว หากไม่เสียชีวิตก่อนจะมีอายุยืน และ ทำงานต่อไปได้ไม่น้อยกว่า 30 ปี (นับถึงอายุ 60 ปี)
แบบนี้ฟ้องเรียกค่าสินไหมดแทนได้หลายอย่างรวมทั้งค่าขาดรายได้ เดือนละ 150,000 x12 x 30 ได้ด้วย
แต่ในกรณีที่ลูกตาย แม่จะเรียกค่าสินไหมแบบนั้นไม่ได้
แม่เรียกได้แต่ค่าจัดการงานศพ และค่าขาดไร้อุปการะเลี้ยงดูเท่านั้น
สมมุติว่าขณะน้องมีชีวิตอยู่ ส่งเสียแม่เดือนละ 15,000 บาท
ขณะนี้แม่อายุ 60 ร่างกายแข็งแรง คาดว่าจะมีชีวิตถึง 70 ปี
แบบนี้แม่เรียกได้แค่เดือนละ 15,000 เป็นเวลา 10 ปี
ไม่ใช่คำนวนจากรายได้ลูกและอายุของลูก นะครับ
แม่ควรมีทนายความนะครับ
(มาตรา 443 ในกรณีทำให้เขาถึงตายนั้นค่าสินไหมทดแทนได้แก่ ค่าปลงศพรวมทั้งค่าใช้จ่ายอันจำเป็นอย่างอื่นๆ อีก ถ้ามิได้ตายในทันที ค่าสินไหมทดแทนได้แก่ค่ารักษาพยาบาลรวมทั้งค่าเสียหายที่ต้องขาดประโยชน์ทำมาหาได้เพราะไม่สามารถประกอบการงานนั้นด้วย ถ้าว่าเหตุที่ตายลงนั้นทำให้บุคคลหนึ่งคนใดต้องขาดไร้อุปการะตามกฏหมายไปด้วยไซร้ ท่านว่าบุคคลคนนั้นชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น)
ข้อมูลจาก : ทนายเกิดผล แก้วเกิด
ภาพจาก : ไลฟ์สดโหนกระแส