TNN online ลงทะเบียนรับสิทธิ "ค่าน้ำ-ค่าไฟ" บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ดูขั้นตอนที่นี่!

TNN ONLINE

สังคม

ลงทะเบียนรับสิทธิ "ค่าน้ำ-ค่าไฟ" บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ดูขั้นตอนที่นี่!

ลงทะเบียนรับสิทธิ ค่าน้ำ-ค่าไฟ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ดูขั้นตอนที่นี่!

เปิดขั้นตอนลงทะเบียนรับสิทธิ "ลดค่าไฟ-ค่าน้ำ" บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ 15 มีนาคม ต้องทำอย่างไร มีเงื่อนไขอะไรบ้าง?

เปิดขั้นตอนลงทะเบียนรับสิทธิ "ลดค่าไฟ-ค่าน้ำ" บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ 15 มีนาคม ต้องทำอย่างไร มีเงื่อนไขอะไรบ้าง?


ความคืบหน้า หลังจากกระทรวงการคลังเปิดให้ประชาชานเช็คสิทธิ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยสามารถตรวจสอบผลลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป ผ่าน 3 ช่องทาง ดังนี้


1. https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.thได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน

2. ผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ สังกัดกรมบัญชีกลาง ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ ภายใต้กระทรวงมหาดไทย สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต 

และศาลาว่าการเมืองพัทยา เมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงานสำหรับการตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ให้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของหน่วยงานรับลงทะเบียนแต่ละแห่ง

3. โทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ Call Center โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วันจันทร์ – วันศุกร์ตามเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน


รายละเอียดมาตรการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ


ล่าสุด นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เผยว่า เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการจัดสรรประชารัฐสวัสดิการใหม่ตามที่คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (คณะกรรมการฯ) เสนอ ซึ่งมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา (มาตรการบรรเทาฯ) เป็นหนึ่งในมาตรการการจัดสรรประชารัฐสวัสดิการใหม่


สำหรับผู้ที่ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565  โดยมาตรการบรรเทาฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาให้แก่ผู้มีบัตรฯ ทั้งนี้ รายละเอียดการดำเนินมาตรการบรรเทาฯ มีดังนี้


1. สวัสดิการค่าไฟฟ้าและค่าประปา


1.1) สวัสดิการค่าไฟฟ้า 


ปัจจุบันประชาชนทั่วไปจะได้รับการสนับสนุนค่าไฟฟ้าจากมาตรการของรัฐบาลโดยการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งมีเงื่อนไขว่า หากประชาชนใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน จะได้รับสิทธิใช้ไฟฟ้าฟรี ดังนั้น ภายใต้มาตรการบรรเทาฯ ให้แก่ผู้มีบัตรฯ จะเป็นกรณีที่ผู้มีบัตรฯ ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือน โดยจะได้รับสนับสนุนค่าไฟฟ้าวงเงิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน แต่หากมีการใช้ไฟฟ้าเกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ผู้มีบัตรฯ จะต้องเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าด้วยตนเองทั้งหมด 


1.2) สวัสดิการค่าน้ำประปา 


สนับสนุนค่าน้ำประปาวงเงิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน โดยในกรณีที่ผู้มีบัตรฯ ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน แต่ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ผู้มีบัตรฯ จะยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน โดยจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาท ต่อครัวเรือนต่อเดือนด้วยตนเอง แต่หากผู้มีบัตรฯ ใช้น้ำประปาเกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ผู้มีบัตรฯ ต้องเป็นผู้รับภาระค่าน้ำประปาด้วยตนเองทั้งหมด 


2. ปรับเปลี่ยนวิธีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับค่าไฟฟ้าและ/หรือค่าประปา


โครงการฯ ปี 2565 ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับค่าไฟฟ้าและ/หรือค่าประปาสำหรับผู้มีบัตรฯ จากเดิมที่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 และปี 2561 ต้องสำรองเงินจ่ายค่าใช้จ่ายสำหรับค่าไฟฟ้าและ/หรือค่าประปาให้แก่ผู้ให้บริการล่วงหน้าก่อน โดยผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 และปี 2561 จะได้รับเงินสนับสนุนคืนเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐภายหลัง 


สำหรับมาตรการบรรเทาฯในครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนเป็นภาครัฐโดยกระทรวงการคลังจะสนับสนุนค่าไฟฟ้า และ/หรือค่าประปาให้แก่ผู้ให้บริการโดยตรงตามมูลค่าที่ผู้มีบัตรฯ ใช้สิทธิ์ตามเงื่อนไขมาตรการบรรเทาฯ ที่กำหนด โดยวิธีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายนี้จะทำให้ผู้มีบัตรฯ ไม่ต้องสำรองเงินจ่ายค่าบริการไปก่อน ซึ่งจะเป็นการช่วยลดภาระและเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้แก่ผู้มีบัตรฯ  


ช่องทางลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำและค่าไฟ


ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ที่ประสงค์รับสิทธิ จะต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิใหม่ทุกคน 


ลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้า ได้ที่นี่


1. สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://meagate1.mea.or.th/welfareregis เบอร์ติดต่อ 1130

2. สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://welfareregis.pea.co.th เบอร์ติดต่อ 1129  

3. กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ (กทร.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://walfareregis.sea.co.th เบอร์ติดต่อ 086-8481284 


ลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำประปา ได้ที่นี่


1. สำนักงานการประปานครหลวง (กปน.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://eservicesapp.mwa.co.th/ES/MWAWelfareServlet เบอร์ติดต่อ 1125

2. สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://register.pwa.co.th/welfare-register.html เบอร์ติดต่อ 1662



ขั้นตอนการลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟ


1.เข้าเว็บไซต์ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือ สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ (กทร.)

2.รหัสเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า (เลขมิเตอร์ไฟฟ้า)

3.กรอกบัญชีแสดงสัญญา 

4.กรอกที่อยู่

5.กรอกข้อมูลส่วนตัว (ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทร อีเมล)

6.กดยืนยัน ลงทะเบียน



ขั้นตอนการลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำ


1.ไปที่เว็บไซต์ การประปานครหลวง หรือ การประปาส่วนภูมิภาค 

2.กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ชื่อ-นามสกุลของผู้ลงทะเบียน (ตามบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ)

3.กรอกเลขบัตรประชาชนของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้ลงทะเบียน

4.กรอกอีเมลล์ของผู้ลงทะเบียน (ถ้ามี), เบอร์โทรศัพท์ของผู้ลงทะเบียน (ถ้ามี)

5.เลือกสาขาของบ้านที่จะใช้สิทธิสวัสดิการ

6.กรอกเลขที่ผู้ใช้น้ำ เลขที่ผู้ใช้น้ำของบ้านที่จะใช้สิทธิสวัสดิการ

7.เลือกรูปภาพที่ปรากฏให้ถูกต้อง และคลิกที่ปุ่ม ตกลง



ลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำและค่าไฟ จะได้รับสิทธิเมื่อใด


โดยผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ และได้ยืนยันตัวตนสำเร็จเพื่อรับสิทธิตามโครงการฯ ปี 2565 แล้ว สามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิค่าไฟฟ้าและค่าประปาได้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป กับหน่วยงานผู้ให้บริการที่ผู้มีบัตรฯ รับบริการอยู่ 


ซึ่งหากลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้ากับ กฟน. หรือ กฟภ. สำเร็จภายในวันที่ 8 เมษายน 2566 เวลา 17.00 น. หรือลงทะเบียนกับ กทร. สำเร็จภายในวันที่ 20 เมษายน 2566 เวลา 17.00 น. หรือลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำประปากับ กปน. หรือ กปภ. สำเร็จภายในวันที่ 25 มีนาคม 2566 เวลา 17.00 น. จะได้รับสิทธิเดือนแรก คือ “ใบแจ้งหนี้ค่าบริการเดือนเมษายน 2566” 


สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนภายหลังวันและเวลาดังกล่าว เมื่อลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้ากับ กฟน. หรือ กฟภ. สำเร็จภายในวันที่ 8 เวลา 17.00 น. ของแต่ละเดือน หรือลงทะเบียนกับ กทร. สำเร็จภายในวันที่ 20 เวลา 17.00 น. ของแต่ละเดือน และ/หรือลงทะเบียนรับสิทธิ์ค่าน้ำประปากับ กปน. หรือ กปภ. สำเร็จภายในวันที่ 25 เวลา 17.00 น. ของแต่ละเดือน จะสามารถได้รับสิทธิสำหรับใบแจ้งหนี้ค่าบริการในเดือนถัดไป (ไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง) 


ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ใช้สิทธิตามมาตรการบรรเทาฯ ให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 และปี 2561 จะสามารถใช้สิทธิในรอบใบแจ้งหนี้ค่าบริการเดือนมีนาคม 2566 เป็นเดือนสุดท้าย โดยสามารถนำใบแจ้งหนี้ค่าบริการที่ค้างชำระในช่วงที่ได้รับสิทธิตามมาตรการบรรเทาฯ ไปชำระเพื่อขอรับเงินสนับสนุนได้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2566 


ผู้ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 สามารถเข้าร่วมมาตรการบรรเทาฯ ได้ทุกคน แต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขสวัสดิการของมาตรการบรรเทาฯ ที่กำหนดการให้สวัสดิการแบบ 1 ครัวเรือนต่อ 1 สิทธิต่อ 1 รหัสประจำบ้าน ซึ่งสามารถลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้าได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน เช่นเดียวกันกับค่าประปาที่สามารถลงทะเบียนรับสิทธิค่าบริการได้เพียง ผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน 


สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ที่เว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ .mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th




ข้อเสนอประชารัฐสวัสดิการใหม่ที่จัดสรรให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่


1. วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรมจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน


2.วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด จำนวน 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน


3. วงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ จำนวน 750 บาทต่อคนต่อเดือน โดยสามารถใช้โดยสารได้กับระบบขนส่ง 8 ประเภท ได้แก่ 

(1) รถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) 

(2) รถบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) 

(3) รถไฟฟ้า บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพจ ากัด (มหาชน) (Bangkok Mass Transit System : BTS) รถไฟฟ้ามหานคร (Metropolitan Rapid Transit : MRT) และบริษัทรถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด 

(4) รถไฟ 

(5) รถเอกชนร่วม ขสมก. รถเอกชน และส่วนราชการกรุงเทพมหานคร 

(6) รถเอกชนร่วม บขส. และรถเอกชน 

(7) รถสองแถวรับจ้าง 

(8) เรือโดยสาร สาธารณะ โดยไม่จำกัดวงเงินตามประเภทรถ


4. มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า อุดหนุนค่าไฟฟ้าจ านวน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ผู้มีบัตรฯ) ที่ได้รับสิทธิจะเป็ นผู้รับภาระค่า

ไฟฟ้าทั้งหมด


5. มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา อุดหนุนค่าน้ำประปาจำนวน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใชน้ำ ประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ผู้มีบัตรฯ ที่ได้รับสิทธิ ยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และจะต้องช าระส่วนที่เกิน 100 บาท ด้วยตนเอง แต่หากผู้มีบัตรฯที่ได้รับสิทธิมีการใช้น้า ประปาเกิน 315 บาท ผู้มีบัตรฯที่ได้รับสิทธิจะเป็นผู้รับบภาระค่าน้ำประปาทั้งหมด


ลงทะเบียนรับสิทธิ ค่าน้ำ-ค่าไฟ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ดูขั้นตอนที่นี่! ภาพจาก สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง : Fiscal Policy Office

 


ลงทะเบียนรับสิทธิ ค่าน้ำ-ค่าไฟ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ดูขั้นตอนที่นี่! ภาพจาก สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง : Fiscal Policy Office

 


ลงทะเบียนรับสิทธิ ค่าน้ำ-ค่าไฟ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ดูขั้นตอนที่นี่! ภาพจาก สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง : Fiscal Policy Office

 


ลงทะเบียนรับสิทธิ ค่าน้ำ-ค่าไฟ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ดูขั้นตอนที่นี่! ภาพจาก สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง : Fiscal Policy Office

 


ลงทะเบียนรับสิทธิ ค่าน้ำ-ค่าไฟ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ดูขั้นตอนที่นี่! ภาพจาก สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง : Fiscal Policy Office

 






ลงทะเบียนรับสิทธิ ค่าน้ำ-ค่าไฟ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ดูขั้นตอนที่นี่!










ที่มา สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง / กระทรวงการคลัง

ภาพจาก MEA /TNN Online


การประปานครหลวง

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง