TNN online สดร.ชวนชม "Micro Full Moon" ดวงจันทร์เต็มดวงไกลโลกที่สุดในรอบปี

TNN ONLINE

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สดร.ชวนชม "Micro Full Moon" ดวงจันทร์เต็มดวงไกลโลกที่สุดในรอบปี

สดร.ชวนชม Micro Full Moon ดวงจันทร์เต็มดวงไกลโลกที่สุดในรอบปี

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ชวนชม "Micro Full Moon" ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี ระยะห่างจากโลกประมาณ 405,924 กิโลเมตร สังเกตการณ์ได้ตลอดคืน หลังที่ผ่านมาเกิดปรากฎการณ์ธรรมชาติมากมายเกี่ยวกับดวงจันทร์

วันนี้ (19 ธ.ค.64) สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ สดร. ชวนคนไทยติดตาม ปรากฏการณ์ดวงจันทร์เต็มดวงไกลโลกที่สุดในรอบปี หรือ "Micro Full Moon" เป็นคืนจันทร์เต็มดวงที่ดวงจันทร์จะโคจรอยู่ในระยะไกลโลกมากที่สุดในรอบปี หรือเรียกว่า “ไมโครฟูลมูน” 

โดยมีระยะห่างจากโลกประมาณ 405,924 กิโลเมตร เราจะมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวงมีขนาดปรากฏเล็กสุดในรอบปี เริ่มสังเกตดวงจันทร์ได้ด้วยตาเปล่าทางทิศตะวันออก หลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า เวลาประมาณ 18.00 น. เป็นต้นไปจนถึงรุ่งเช้า

ความพิเศษของปรากฏกาณณ์ Micro Full Moon คือ “ต้องเป็นช่วงที่ดวงจันทร์เต็มดวงเท่านั้น” แล้วอยู่ในระยะห่างเฉลี่ยมากกว่า 406,000 กิโลเมตร เท่านั้น ซึ่งการโคจรของดวงจันทร์รอบโลกเป็นวงรีนั้น ถึงแม้ในแต่ละเดือนจะมีช่วงที่อยู่ใกล้โลกน้อยกว่า 357,000 กิโลเมตร หรืออยู่ไกลโลกมากกว่า 406,000 กิโลเมตร แต่ก็มักไม่ใช้ช่วงที่ดวงจันทร์เต็มดวง เพราะสิ่งที่นักดาราศาสตร์ให้ความสำคัญและให้ความสนใจก็คือ เฉพาะช่วงที่ดวงจันทร์เต็มดวงเท่านั้น

ดังนั้น จึงเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ได้เกิดบ่อยครั้งนัก ปีหนึ่งๆ จะมีปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเฉลี่ย 1-2 ครั้ง เท่านั้น

ตัวอย่างแผนภาพแสดงตำแหน่งจุดที่ดวงจันทร์อยู่ใกล้โลกมากที่สุด เรียกว่า เปริจี (Perigee) และจุดที่ดวงจันทร์อยู่ไกลโลกมากที่สุด เรียกว่า อะโปจี (Apogee)

เทคนิคการถ่ายภาพดวงจันทร์เต็มดวงอย่างง่าย

1. ใช้เลนส์เทเลโฟโต้ความยาวโฟกัสตั้งแต่ 300 มม. ขึ้นไป เพื่อให้ได้ภาพดวงจันทร์ที่มีขนาดใหญ่ ยิ่งถ่ายภาพผ่านกล้องโทรทรรศน์ที่มีความยาวโฟกัสสูง จะยิ่งได้ภาพดวงจันทร์ขนาดใหญ่และมีรายละเอียดที่ดีกว่า 

2. ใช้ค่าความไวแสง (ISO) ตั้งแต่ 400 ขึ้นไป เนื่องจากดวงจันทร์ในช่วงเต็มดวงจะมีความเข้มแสงมากอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ค่าความไวแสงสูงๆ แต่การใช้ค่าความไวแสงสูง จะทำให้ได้ความเร็วชัตเตอร์ที่สูงขึ้นด้วย ช่วยทำให้ภาพไม่สั่นไหว

3. การปรับโฟกัสภาพ แนะนำใช้ระบบ Live View บนจอหลังกล้อง เลือกโฟกัสบริเวณหลุมอุกกาบาตบนผิวดวงจันทร์ จะช่วยให้สามารถโฟกัสได้คมชัดและง่ายมากที่สุด

4. ปรับชดเชยแสงไม่ให้สว่างหรือมืดจนเกินไป อาจทดลองถ่ายภาพแล้วตรวจสอบภาพดูว่าเห็นรายละเอียดของหลุมบนดวงจันทร์ชัดเจนหรือไม่  

5. ใช้โหมดการถ่ายภาพแบบแมนนวล (M) เนื่องจากสามารถปรับการตั้งค่าได้ทั้งรูรับแสงและความเร็วชัตเตอร์ได้สะดวก

6. ความเร็วชัตเตอร์ ควรสัมพันธ์กับทางยาวโฟกัสของเลนส์ที่ใช้ เช่น หากใช้เลนส์ที่มีทางยาวโฟกัส 600 มม. ควรใช้ความเร็วชัตเตอร์ไม่ต่ำกว่า 1/600 วินาที หากภาพที่ถ่ายออกมามืดเกินไปให้เพิ่มค่าความไวแสง (ISO) ขึ้นจนได้แสงที่พอดี

7. รูรับแสง เลือกใช้ในช่วงประมาณ f/4.0 – f/8.0 เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดทั่วทั้งภาพ

8. ปิดระบบกันสั่นของเลนส์

9. ถ่ายภาพบนขาตั้งกล้องที่มั่นคง

10. การบันทึกข้อมูลควรเลือกรูปแบบไฟล์เป็น RAW format เพื่อความยืดหยุ่นในการปรับภาพในภายหลัง


ข้อมูลและภาพจาก สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง