TNN online หยุดทำพฤติกรรมเหล่านี้ หากไม่อยากเสี่ยงเป็น "โรคกลากเกลื้อน"

TNN ONLINE

Health

หยุดทำพฤติกรรมเหล่านี้ หากไม่อยากเสี่ยงเป็น "โรคกลากเกลื้อน"

หยุดทำพฤติกรรมเหล่านี้ หากไม่อยากเสี่ยงเป็น โรคกลากเกลื้อน

คนชอบออกกำลังกายต้องดู หยุดทำพฤติกรรมเหล่านี้ หากไม่อยากเสี่ยงเป็น "โรคกลากเกลื้อน"

โรคกลากเกลื้อน เป็นโรคผิวหนังที่หลายๆคนมักเข้าใจผิด ทั้งสองโรคนี้ไม่ใช่โรคเดียวกัน แต่สาเหตุของทั้งสองโรคนี้ก็มีปัจจัยคล้ายๆ กัน นั่นก็คือเรื่องของการรักษาความสะอาดของร่างกายนั่นเอง สำหรับใครที่ไม่อยากเสี่ยงต่อการเป็นโรคกลากเกลื้อน ควรหยุดทำพฤติกรรมเหล่านี้ จะมีอะไรบ้าง ตามดูได้ในบทความนี้


พฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคกลากเกลื้อน

1. การไม่รักษาสุขอนามัย เช่น ไม่อาบน้ำ ไม่ล้างมือ หรือไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าหลังออกกำลังกาย

2. การสวมใส่เสื้อผ้าที่อับชื้นอยู่เป็นประจำ 

3. การใช้ของร่วมกับผู้อื่นที่มีแนวโน้มเป็นโรค เช่น ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า หรือหวี เนื่องจากโรคกลากสามารถติดต่อได้จากการสัมผัส

4. การสัมผัสสัตว์เลี้ยงที่ติดเชื้อ เช่น สุนัข แมว

5. การมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคเอดส์ หรือผู้ที่ทานยาสเตียรอยด์ จะทำให้เชื้อราสามารถเติบโตได้ดีกว่าปกติ


วิธีป้องกันโรคกลากเกลื้อน

• รักษาสุขอนามัยให้สะอาดอยู่เสมอ อาบน้ำ ล้างมือ และเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นประจำ

• สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่อับชื้น

• ไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น

• หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์เลี้ยงที่ติดเชื้อ

• ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ทานอาหารครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ


การรักษาโรคกลากเกลื้อน

1. ใช้ยาทาต้านเชื้อรา

2. ใช้ยาฆ่าเชื้อราชนิดรับประทาน

3. ใช้ยาแก้คัน


ข้อควรระวังและวิธีการดูแลตนเองเมื่อเป็นกลากเกลื้อน 

1. ไม่ควรซื้อยาทาต้านเชื้อรามาทาเอง เพราะอาจทำให้เชื้อดื้อยา

2. ไม่ควรแคะ แกะ หรือเกาบริเวณที่เป็นโรค เพราะอาจทำให้เกิดแผลติดเชื้อ

3. ไม่ควรใช้ครีมสเตียรอยด์ทาเอง เพราะอาจทำให้โรคเรื้อรัง


การป้องกันดีกว่าการรักษา ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อห่างไกลจากโรคกลากเกลื้อน ที่สำคัญ หากสงสัยว่าตนเองเป็นโรคกลากเกลื้อน ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถุกต้องต่อไป


ขอบคุณข้อมูลจาก : คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, สสส.

ที่มาภาพปก : freepik

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง